แก่งคุดคู้
Highlight
- “แก่งคุดคู้” มีลักษณะเป็นแก่งหินที่อยู่ในช่วงโค้งของแม่น้ำโขงแล้วมีภูเขาเป็นฉากหลัง ในช่วงที่แม่น้ำโขงลดลงเราจะเห็นโขดหินเกาะแก่งต่าง ๆโผล่พ้นน้ำขึ้นมา และเนื่องจากจุดชมวิวแก่งคุดคู้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้เหมาะกับการมาเก็บแสงเช้ามากที่สุด ส่วนแสงเย็นพอเก็บได้ แต่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก
1. แก่งคุดคู้ จุดชมวิวแม่น้ำโขงเมืองเชียงคาน
“แก่งคุดคู้” เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อได้เดินทางมาเชียงคาน ด้วยภูมิทัศน์ที่เห็นโขดหินวางตัวในช่วงโค้งเว้าของแม้น้ำโขงแล้วมีฉากหลังเป็นภูเขาที่ชื่อว่า “ภูควายเงิน” แน่นอนว่าใครไปช่วงที่แม่น้ำโขงลดลงเยอะๆ ก็จะเห็นโขดหินหรือเกาะแก่งต่าง ๆโผล่ขึ้นมาได้อย่างชัดเจน และสามารถลงไปถ่ายรูปใกล้ชิดสัมผัสกับแม่น้ำโขงได้อีกด้วย ส่วนไปช่วงไหนน้ำลดนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนน้ำจะลดลงช่วงเดือน ม.ค. – พ.ค. แต่ปัจจุบันบอกได้ยากมาก เนื่องจากลาวและจีนสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำโขงขึ้นมา ดังนั้นน้ำโขงจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับอารมณ์คนจัดการน้ำล้วน ๆ อย่างที่ผมไปล่าสุดเมื่อช่วงปลายฝนต้นหนาวน้ำน้อยยิ่งกว่าช่วงหน้าแล้งอีกครับ ทั้ง ๆที่มันควรจะเป็นฤดูน้ำเยอะที่สุด แม้ว่ามันอาจจะเป็นโชคดีของผมที่เจอน้ำน้อย(เพราะถ่ายรูปสวย) แต่ชาวบ้านริมน้ำโขงที่ใช้น้ำในการดำเนินวิถีชีวิตและทำเกษตรกรรมก็คงต้องปรับตัวกันไม่น้อย ในบริเวณรอบ ๆจุดชมวิวแก่งคุดคู้จะเป็นสวนสาธารณะพักผ่อนหย่อนใจ และใกล้ๆกันจะมีตลาดขายของกินรวมถึงของที่ระลึกด้วย ส่วนถ้าใครมาแล้วจะเอาให้สุดผมแนะนำให้นอนพักแรมที่แก่งคุดคู้สักคืนนึงไปเลยครับ เพราะไหน ๆขับรถมาตั้งไกลแล้วก็ควรซึมซับบรรยากาศริมแม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด “แก่งคุดคู้” ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงคาน จ.เลย ห่างจากตัวเมืองเชียงคานประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถราว ๆ 10-15 นาที
2. แก่งคุดคู้ Highlight อยู่ที่แสงเช้า
ทีเด็ดของการเดินทางมา “แก่งคุดคู้” ก็คือการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบภูเขาพร้อมกับแสงสีทองสะท้อนไปยังแม่น้ำโขง แล้วยิ่งใครโชคดีอาจได้เจอหมอกละตามภูเขาด้วย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ไม่ควรพลาดมาเก็บแสงเช้าที่นี่เป็นอย่างยิ่ง ผมแนะนำให้มาถึงแก่งคุดคู้ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 15 นาที เพราะจะได้ทันเก็บแสง Twilight และพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบภูเขา ซึ่งพระอาทิตย์จะขึ้นพ้นจากขอบภูเขาประมาณ 30-35 นาที หลังจากเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในมือถือ แต่ถ้าใครมาแล้วหมอกหนาแนะนำให้ขึ้นไปเก็บทะเลหมอกบนภูทอกแทนนะครับ เพราะวันไหนที่หมอกหนากว่าหมอกจะสลายอาจใช้เวลา 1-2 ช.ม. หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นเลยทีเดียว
3. เก็บแสงเย็นกับวิถีชีวิตริมน้ำโขง
แสงเย็นที่แก่งคุดคู้อาจจะไม่โดดเด่นมากนัก เนื่องจากว่าจุดชมวิวที่แก่งคุดคู้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทำให้เราไม่เห็นพระอาทิตย์ตกตรง ๆ แต่ใช่ว่าจะเก็บไม่ได้เลยนะครับ เพราะในช่วงเย็นเราจะได้แสงสีทองสะท้อนไปกับโขดหินด้านล่างพร้อมกับดูวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขงก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สำหรับใครที่จะมาเก็บภาพแสงเย็นผมแนะนำให้มาก่อนพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 25 นาที เพราะถ้ามาหลังจากนั้นแล้วจะเกิดเงาลงบนแม่น้ำโขงทำให้การวัดแสงยากมาก ภาพที่ออกมาไม่ติด under ก็หลุด highlight ส่วนใครจะเก็บแสงเย็นริมแม่น้ำโขงแบบเห็นพระอาทิตย์ตกดินตรง ๆ แนะนำให้ไปจุดชมวิวหลังวัดท่าแขกเลยครับ ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงแก่งคุดคู้ประมาณ 2 กิโลเมตร