เชียงราย

เชียงราย

 

เชียงรายนครหลวงแห่งทะเลหมอกภูเขาและชาไทย

“เชียงราย” เป็นจังหวัดแรกที่ทำให้ผมรู้สึกหลงใหลในความงามของเทือกเขาทางภาคเหนือมาก ๆ ด้วยธรรมชาติภูเขาสูงทั้งสองด้านฝั่งตะวันออกและตะวันตก ทะเลหมอกที่สวยงาม ชากาแฟที่โด่งดัง รวมถึงการเดินทางที่สะดวกจะขึ้นเครื่องบินมา หรือขับรถมาก็ได้ แต่ไม่มีรถไฟมานะครับ ฮ่า ๆ ส่วนตัวผมชอบขับรถมา เพราะเราสามารถแวะนู่นนี่นั่นระหว่างทางได้ แน่นอนว่าในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย  ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ถูกนำเสนอตามกระทู้หรือเว็บท่องเที่ยวต่าง ๆไปกันเยอะมาก เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการเดินทาง ผมจะนำเสนอการท่องเที่ยวในรูปแบบว่า “ถ้าหากเราไปสถานที่นั้น ๆ แต่ละช่วงเวลาฤดูกาลจะมีความสวยงามต่างกันอย่างไร แล้วไปตอนไหนถึงมีโอกาสเจอธรรมชาติสวยงามอลังการมากที่สุด ”  ถ้าอ่านจบรับรองว่าไปเที่ยวเชียงรายได้รูปธรรมชาติสวย ๆ กลับบ้านแน่นอน

ทะเลหมอกหลังฝนตก ตอนเช้า บนดอยผาฮี้ รีวิวเพิ่มเติม >>> บ้านดอยผาฮี้

หลายคนถามว่า “เชียงราย” ไปช่วงไหนดีที่สุด? ผมขอตอบเลยว่าปลายฝนต้นหนาว หรือ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เพราะมีโอกาสเจอทะเลหมอกบนภูชี้ฟ้า ดอยช้าง ดอยแม่สลอง ดอยผาฮี้ ดอยช้างมูบ ได้มากที่สุด ยิ่งหากคืนไหนมีฝนตกลงมาด้วยแล้วเช้าวันต่อมาหมอกเยอะจน งง เลยค้าบ และที่สำคัญช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการล่าทางช้างเผือก ไม่งั้นต้องรออีกทีเดือนมีนาคมเลย ส่วนรายละเอียด สภาพอากาศ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อ่านต่อด้านล่างได้เลย

 

เที่ยวเชียงราย ไปช่วงไหนดี สภาพอากาศเชียงรายแต่ละเดือนเป็นอย่างไร

ตารางสภาพอากาศ ภูมิอากาศรายเดือน จังหวัดเชียงราย เก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2008–2023 ข้อมูลนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น ในบางครั้งที่สภาพอากาศแปรปรวนก็อาจไม่เป็นไปตามนี้ได้

เชียงราย หน้าฝน (กลางเดือนพฤษภาคม-กลางตุลาคม) จะเริ่มประมาณกลางเดือน พ.ค. ฝนที่ตกส่วนใหญ่เป็นฝนฟ้าคะนอง และตกไม่เกิน 1-2 ชม.(อาจมีลูกเห็บแถมให้ด้วย ฮ่า ๆ) แล้วจะเข้าฤดูฝนอย่างจริงจังก็ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ในช่วงนี้ฝนจะตกแบบต่อเนื่องติดต่อกันได้หลายวัน จนกระทั่งเข้าเดือนกันยายนฝนจะเริ่มลดลง จากฝนที่ตกยาวต่อเนื่องกลายเป็นฝนที่ตกต่อวันไม่เกิน 1-2 ชม. เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วฝนจะเริ่มหมดประมาณกลางเดือนตุลาคมบวกลบ 2 สัปดาห์ ส่วนอุณหภูมิหน้าฝนค่อนข้างคงที่ ช่วงเช้าอากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป แต่จะชื้นๆไปหน่อย ส่วนตอนกลางวันถ้าไม่มีเมฆปกคลุมก็ร้อนเหมือนกับที่อื่น ๆในไทย ข้อดีของการมาเที่ยวช่วงนี้นอกจากต้นไม้ป่าเขาเป็นสีเขียวแล้วตามภูเขาต่าง ๆจะมีเมฆหมอกปกคลุมภูเขาสูง ๆด้วย ซึ่งผมว่าสวยเลยทีเดียว

ทะเลหมอก บนดอยช้าง จะมีโอกาสเห็นได้มากที่สุดช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะเดือนกันยายน รีวิวดอยช้างเพิ่มเติม >>> ดอยช้าง เชียงราย

เชียงราย ช่วงปลายฝนต้นหนาว (กลางเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) ตอนเช้าอากาศจะเริ่มเย็น ๆ และอาจหนาวได้ในบางวัน(ช่วงที่ความกดอากาศสูงลงมาแรง ๆ) ส่วนกลางวันก็ร้อนชื้น ๆเหมือนกับที่อื่น ๆ แต่ความพีคของช่วงนี้คือเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาว ความชื้นที่สะสมจากฤดูฝนปะทะกับอากาศเย็นจากจีน ทำให้ไอน้ำในอากาศควบแน่นกลายเป็นหมอกได้ง่ายในตอนเช้า ใครที่อยากมาดูทะเลหมอกสวย ๆ(มาแล้วไม่แป็ก)ต้องมาช่วงนี้แหละครับ โอกาสเจอทะเลหมอกเยอะที่สุดแล้ว ฝนในช่วงนี้ก็พอมีอยู่บ้างส่วนใหญ่ตกตามเทือกเขาสูง ๆ แล้วถ้าเย็นวันไหนมีฝนตกเช้าวันต่อมาเตรียมพบกับทะเลหมอกสุดอลังการได้เลย แถมช่วงนี้ต้นไม้บนภูเขาก็เขียวเหมือนช่วงฤดูฝนด้วย ท้องฟ้าค่อนข้างใสไม่มีหมอกแดดมาปกคลุม เอาเป็นว่าผมให้ช่วงนี้เป็นที่สุดของการมาเที่ยวเชียงรายแล้วละครับ

ทะเลหมอกภูชี้ฟ้า แบบเต็ม ๆ ช่วงปลายฝนต้นหนาว รีวิวเพิ่มเติม >>> ภูชี้ฟ้า

เชียงราย หน้าหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) ต้องยอมรับว่าเชียงรายอยู่เหนือที่สุดของไทย ทำให้เข้าฤดูหนาวได้เร็วกว่าที่อื่น ๆในภาคเหนือ ช่วงนี้อากาศจะหนาวเย็นเต็มที่ บางครั้งที่ความกดอากาศสูงลงมาแรง ๆ ก็อาจเจออากาศหนาวจัดจนถึงเลขตัวเดียวได้เลย ในตอนกลางวันอากาศกำลังสบาย ๆอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 27-28 องศาฯ เท่านั้น (แต่ความแรงของแดดนี่เอาเรื่องนะ) ทะเลหมอกช่วงนี้พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่สวยเท่ากับปลายฝนต้นหนาว ข้อเสียช่วงนี้คือต้นไม้บนภูเขาจะเริ่มไม่ค่อยเขียวแล้ว และทัศนวิสัยหรือความใสของท้องฟ้าเริ่มลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งเดือนกุมภาพันธ์จะแย่ที่สุด สำหรับฝนในช่วงนี้จะมีเฉพาะช่วงที่กระแสลมตะวันตกพัดย้อยลงมาเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะตกเพียง 5-6 วัน/ช่วง ส่วนใหญ่เป็นฝนปรอย ๆ เมฆครึ้ม ๆ แล้วหากวันไหนฝนตก วันนั้นอากาศเย็นสบายทั้งวัน แต่ต้องระวัง เพราะบางครั้งมักแถมพ่วงลูกเห็บมาด้วย

ดอกพญาเสือโคร่ง ปลายเดือน มกราคม บนดอยแม่สลอง ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น รีวิวเพิ่มเติม >>> ดอยแม่สลอง

เชียงราย หน้าร้อน (เดือนมีนาคม-กลางเดือนพฤษภาคม) ตรงกับฤดูแล้งของทางภาคเหนือ แน่นอนหนีไม่พ้นเรื่องของหมอกควัน ถึงแม้เชียงรายจะควบคุมการเผาได้ดี แต่ด้วยที่ตั้งติดชายแดนก็ทำให้เชียงรายได้รับผลกระทบหมอกควันที่ลอยมาจากเพื่อนบ้านอยู่ดี ในช่วงเดือนมีนาคมเป็นช่วงที่ทัศนวิสัยแย่สุด ถ้าเลี่ยงช่วงนี้ได้ควรเลี่ยงอย่างยิ่ง ประมาณช่วงเดือนเมษายนจะเริ่มขึ้นดีมาหน่อย เพราะในช่วงที่ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาอาจมีฝนตกลงมาช่วยลดหมอกควันได้บ้าง ฝนที่ตกส่วนใหญ่เป็นฝนฟ้าคะนองและตกไม่เกิน 1-2 ชม.(อาจแถมลูกเห็บมาด้วย) ต้นไม้บนภูเขากำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูยังไม่ค่อยเขียวเท่าไหร่ ในช่วงนี้ตอนเช้าอากาศเย็น ๆ แต่ในช่วงกลางวันอากาศจะร้อน เฉลี่ยแล้วประมาณ 33-34 องศาฯ (ถือเป็นจังหวัดที่อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ร้อนน้อยสุดในภาคเหนือแล้วครับ) ส่วนใครที่คิดจะมาเที่ยวช่วงนี้ ผมแนะนำว่าให้รออีกนิดค่อยมาช่วงปลาย พ.ค. จะดีกว่า

 

เที่ยวเชียงราย ไปไหนดี เข้าไปอ่านข้อมูลแต่ละสถานที่เที่ยวกันได้เลย

 

ที่เที่ยวเชียงราย

 

เส้นทางเที่ยวเชียงรายแนะนำ สายถ่ายรูปต้องอ่าน

 

ข้อแนะนำในการเที่ยวเชียงราย

 

  • ในช่วงกลางเดือน ต.ค. – พ.ย. จะเป็นช่วงที่ภูชี้ฟ้ามีโอกาสเกิดทะเลหมอกได้มากที่สุด ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพลมและความใสของท้องฟ้า ถ้าคืนวันไหนท้องฟ้าแจ่มไร้เมฆ ลมนิ่ง วันนั้นทะเลหมอกจะเยอะมาก แต่ถ้าคืนไหนเมฆเยอะ ลมแรง ทะเลหมอกก็มีน้อย หลังจากเดือน ม.ค. อาจต้องลุ้นทะเลหมอก บางวันมีบางวันไม่มี ยิ่งถ้าเลยปลาย ก.พ. ทะเลหมอกแทบจะไม่มีเลย
  • ดอยแม่สลองและดอยช้างจะสวยที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะมีเมฆหมอกปกคลุมภูเขาสีเขียว ยิ่งเย็นวันไหนมีฝนตกเช้าวันต่อมาเตรียมพบกับอภิมหาโคตรทะเลหมอกได้เลย แต่ถ้าจะมาดูดอกพญาเสือโคร่งต้องมาช่วงต้น ๆเดือนมกราคม ที่นี่ดอกพญาเสือโคร่งจะออกเร็วกว่าที่อื่น ๆประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • สำหรับน้ำแข็งและเหมยขาบในเชียงราย จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อความกดอากาศสูงลงมาจากจีนแรง ๆเท่านั้น(เส้น 1022 แตะเมืองเชียงราย นาน ๆที 2 ปีเกิดครั้งได้) บริเวณที่เกิดเหมยขาบมากที่สุดจะอยู่บนทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้า และตามหุบเขาต่าง ๆไล่ไปตั้งแต่ อ.เทิง อ.เวียงป่าเป้า อ.พาน และช่วงที่เกิดน้ำค้างแข็ง ทะเลหมอกตามหุบเขาต่าง ๆรวมถึงภูชี้ฟ้าจะมีปริมาณไม่เยอะ ดังนั้นต้องเลือกเอาระหว่างเจอหมอกสวย ๆหรือเหมยขาบ