ดอยผาหมี
Highlight
- บ้านดอยผาหมี เหมาะกับการมาพักผ่อนสบาย ๆ ดื่มกาแฟหรือชาแล้วแต่ใครชอบไหน เมื่อมาที่นี่แล้วก็ต้องชามะนาวภูฟ้าที่มีกลิ่นผสมของน้ำผึ้ง และเมนูอาหารพื้นบ้านที่มีรากชูเป็นองค์ประกอบ แนะนำหมูทอดรากซูอร่อยมาก
1. บ้านดอยผาหมี หมู่บ้านที่เล็ก ๆ ที่มีเรื่องราว
บ้านดอยผาหมี เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวอ่าข่า อยู่ท่ามกลางหุบเขาหินปูนติดชายแดนพม่า เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบสบาย ๆ สัมผัสอากาศเย็น จิบกาแฟร้อน ๆ ด้วย “บ้านผาหมี” อยู่ติดกับวนอุทยานแห่งชาติขุนน้ำนางนอน หลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กติดถ้ำ บ้านผาหมีก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ากันมาอย่างไม่ขาดสาย ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนมาพักแรมที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก “ภูฟ้าซเจ๊ะ” หรือ “บูซอโฮมสเตย์” ถ้าเป็นไปได้ควรจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือนนะครับ ยิ่งช่วง High season ยิ่งเต็มเร็ว ส่วนทำไมถึงชื่อว่า “ดอยผาหมี” เพราะดอยแห่งนี้มีรูปร่างคล้ายกับหมีนอนหงายนั่นเอง ไม่ได้หมีเยอะแต่อย่างใด ส่วนมันเหมือนยังไงนั้น ผมก็จินตนาการและมองไม่ออกเหมือนกัน
แต่เดิมบ้านผาหมีเคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นและเป็นช่องทางขนถ่ายยาเสพติด ภายหลังรัฐบาลได้เข้ามาดูแลในเรื่องการขยายพันธุ์กาแฟควบคู่กับการดูแลรักษาป่า ทำให้ชาวบ้านที่นี่เปลี่ยนจากการปลูกฝิ่นมาปลูกต้นกาแฟแทน จนปัจจุบันบ้านผาหมีได้กลายมาเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวอย่างเต็มตัว “บ้านผาหมี”อยู่สูงจากระดับทะเลเฉลี่ยราว ๆ 700 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบาย ไม่ได้ร้อนหรือหนาวมากนัก เว้นแต่ในฤดูหนาวบางครั้งก็อาจหนาวถึงเลขตัวเดียวได้เหมือนกัน ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละรายเดือนตามตารางด้านล่างนี้เลย
2. บ้านผาหมี เก็บแสงเช้า/เย็นได้ในที่เดียวกัน
สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงบ้านผาหมี ก็คือการเก็บแสงทองตอนเช้า ๆพร้อมกับหมอกบาง ๆ ที่มีภูเขาหินปูนเป็นฉากหลังสวยงาม สำหรับภาพถ่ายช่วงเช้าทั้งหมดนี้ ผมถ่ายจากลานชมวิวของบูซอร์โฮมสเตย์ทั้งหมดนะครับ ซึ่งตรงนี้เราจะมองเห็นบ้านผาหมีในมุมมองที่สูงที่สุด
แสงเย็นที่บ้านผาหมีก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน แต่ข้อเสียของบ้านผามีคือจะเก็บพระอาทิตย์ตกดินแบบตรง ๆไม่ได้ ใครที่จะเก็บพระอาทิตย์ตกดินแนะนำให้ขับรถขึ้นไปสถานีปฏิบัติการดอยช้างมูบเลยครับ ส่วนใครขี้เกียจขับรถขึ้นไปรอให้แสงเย็นหมดแล้วเก็บดาวแทนก็ได้ เพราะท้องฟ้าบนนี้มืดพอที่จะเก็บดาวได้อย่างสบาย ๆ
3. ร้านอาหารและบ้านพักภูฟ้าซาเจ๊ะ
“ภูฟ้าซาเจ๊ะ” เป็นทั้งที่พักและร้านอาหารในหมู่บ้านผาหมี จุดเด่นของร้านอาหารนี้คือเมนูอาหารเป็บแบบพื้นบ้านฉบับชาวอาข่า หรือมี “รากชู” เป็นองค์ประกอบนั่นเอง หลายคนคงสงสัยว่า “รากชูคืออะไร” อันที่จริงแล้วรากชูเป็นผักชนิดหนึ่งพบมากทางตอนเหนือของพม่าและตอนใต้ของจีน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในตลาดของภาคเหนือที่ติดชายแดนพม่า แนะนำว่าไหน ๆก็มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องลองสั่งเมนูรากซูมากินดูนะครับ ผมว่ามันอร่อยดี ส่วนรสชาติและกลิ่นของรากชูสำหรับผมมันคล้าย ๆ “กุยฉ่ายผสมขิง” บ้านเรา แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว เอาเป็นว่าต้องมาลองเองละกันฮ่า ๆ
“ภูฟ้าซาเจ๊ะ” ในส่วนของบ้านพักจะมีเพียงแค่ 4 ห้อง เท่านั้น พักได้ห้องละ 2 คน ราคาคืนละ 1,350 บาท รวมอาหารเช้า ภายในห้องพักสะดวกสบายกว้างขวาง ห้องพักมีระเบียงชมวิว มองเห็นวิวทิวเขาอยู่เบื้องหน้า แต่ขอบอกเลยว่าจองยากมาก สาเหตุที่ครั้งนี้ผมมาแล้วไม่ได้นอน เพราะว่าเต็มนั่นแหละครับ ขนาดผมโทรจองล่วงเป็นเดือนแล้วนะ แต่ถ้าใครไม่ได้พักที่นี่ก็แวะขึ้นมาลิ้มลองดื่มชากาแฟกันได้ ขอบอกเลยว่า “ชามะนาวภูฟ้า” หอมอร่อยมาก ถามว่าอร่อยเหมือนแม่สลองไหม? มันอร่อยคนละแบบเทียบเคียงไม่ได้ เพราะที่นี่ชามะนาวจะผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะตัวจริง ๆ (ติดตต่อบ้านพักภูฟ้าซาเจ๊ะ ได้ที่เบอร์โทร 095-680-0094/080-491-2999/064-289-8863 หรือ Facebook Fanpage : ภูฟ้าซาเจ๊ะ)
4. พักแรมที่บูซอโฮมสเตย์ บ้านผาหมี
ในครั้งที่ไปบ้านผาหมี ผมได้มีโอกาสไปพักค้างคืนที่บ้านบูซอโฮมสเตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโฮมสเตย์ของบ้านผาหมีที่มีวิว Landscape สวยงาม จุดเด่นของ “บูซอโฮมสเตย์” คือตั้งอยู่จุดสูงสุดของหมู่บ้านผาหมี หรือสูงราว ๆ 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้บนนี้มีอากาศเย็นในตอนกลางคืนตลอดทั้งปี และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกล เหมาะกับสายถ่ายรูป Landscape มาก ๆ ด้านบนนี้ไม่ได้เป็นเพียงที่พักเท่านั้น แต่มีร้านอาหารและกาแฟให้บริการด้วย ดังนั้นใครไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถขึ้นมาจิบกาแฟกันพร้อมกับชมแสงเช้าได้บนนี้เลย และถ้าโชคดีอาจได้เจอทะเลหมอกด้วย
“บูซอโฮมสเตย์” เป็นบ้านพักแบบปูนผสมไม้ 2 ชั้น ภายในตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ลานชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ส่วนภายในห้องพักตกแต่งเป็นธรรมชาติผสมผสานระหว่างสไตล์ Loft กับโครงสร้างไม้เดิม ที่นี่จะมีห้องให้พักประมาณ 3-4 ห้อง เท่านั้น พักได้ 2-3 คน/ห้อง ราคาประมาณ 700 – 1,500 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกับไข่ดาว หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะก็มีห้องใหญ่รองรับได้มากสุด 6-7 คนอีกหนึ่งห้อง แน่นอนว่าด้วยจำนวนห้องที่จำกัด ใครจะมาช่วงเทศกาลหรือ High season (ธ.ค. – ม.ค.) ควรจองล่วงหน้าเกิน 1-2 เดือน(เพราะเต็มเร็วมาก) หรือใครจองไม่ทันจริง ๆแล้วอยากจะมาให้ได้ บ้านบูซอโฮมสเตย์ก็มีลานกางเต็นท์ให้บริการนะครับ หากใครสนใจโทรไปสอบถามหรือแอดไลน์เจ้าของได้ที่เบอร์ 087-575-2234 หรือ Facebook Fanpage : บูซอโฮมสเตย์
5. บ้านดอยผาหมี เดินทางยากไหม
การเดินทางมาบ้านผาหมีเรียกได้ว่า “ ง่ายมาก ” หมู่บ้านผาหมีตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนหลักที่ไปแม่สาย หากมาจากเชียงรายใช้ถนนหมายเลข 1 ไปทางแม่สาย ประมาณ 58 กิโลเมตร ก็จะถึงแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนบ้านผาหมีอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว ถนนมีช่วงทางโค้งและชันอยู่ช่วงเดียวก่อนถึงหมู่บ้านผาหมี นับว่าเป็นหมู่บ้านที่มีความสวยงามและมาง่ายที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครอ่านแล้วงง พิมพ์ว่า “ร้านภูฟ้าซเจ๊ะ” ใน Google map เลยครับ เพราะร้านนี้ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านพอดีเลย