เชียงใหม่

เชียงใหม่

 

เชียงใหม่ ศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวภูเขาทะเลหมอก และวัฒนธรรมล้านนา

“เชียงใหม่” หลายคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแรก ๆของนักท่องเที่ยวที่คิดจะเริ่มต้นเที่ยวภาคเหนือ ด้วยเชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆงามเยอะมาก แถมเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคเหนือ จึงไม่แปลกที่ได้รับความนิยมเป็นเมืองฮิตติดกระแสมานานหลายยุคสมัย ทำให้ปัจจุบันเราสามารถค้นหาสถานที่เที่ยวยอดนิยมในเชียงใหม่ได้ไม่ยากจากกระทู้รีวิวหรือเว็บเที่ยวต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อหาซ้ำซ้อน ผมจะนำเสนอโดยเน้นไปในทางสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติว่าแต่ละช่วงเวลาฤดูกาลมีความสวยงามแตกต่างกันอย่างไร ไปช่วงไหนสวยที่สุด หลายคนมาเที่ยวเชียงใหม่ไม่รู้เลยว่าจริง ๆแล้วเชียงใหม่สวยสุดก็ตอนปลายฝนต้นหนาว ป่าไม้ภูเขายังเขียว ทะเลหมอกอลังการสุด แล้วแน่นอนว่าคนไม่วุ่นวาย แต่ใช่ว่าหน้าหนาวจะไม่มีเสน่ห์ซะทีเดียว ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาแห่งการสัมผัสอากาศหนาว ๆ ลุ้นน้ำค้างแข็งบนยอดดอยอินทนนท์ พร้อมกับดูดอกพญาเสือโคร่ง โดยจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายธันวามคมเป็นต้นไป แล้วไม่ต้องกังวลเรื่องว่าวันนี้ฟ้าจะปิดหรือฝนจะตกหรือไม่ ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นตกพร้อมแสงสนธยาแจ่ม ๆได้ง่ายในแบบไม่ต้องลุ้น(มันมีฝนได้บ้าง แต่ไม่เยอะเท่าช่วงอื่น ๆ)

บ้านนาเลาใหม่ ช่วงหลังฝนตก ประมาณต้นเดือนตุลาคม ตอนเย็น ทำให้เกิดสายรุ้งสวยงาม

หลายคนถามผมว่า “เชียงใหม่” ไปช่วงไหนดีที่สุด? ผมขอตอบเลยว่าปลายฝนต้นหนาว หรือ เดือนกันยายน-พฤศจิกายน เพราะมีโอกาสเจอทะเลหมอกได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นที่กิ่วแม่ปาน ห้วยน้ำดัง ดอยอ่างขาง แล้วในช่วงนี้ฝนมักจะตกช่วงบ่ายถึงเย็น ฟ้าหลังฝนมักจะมีหมอกขึ้นตามภูเขาเสมอ เช่น ดอยดอยม่อนแจ่ม บ้านนาเลาใหม่ เชียงดาว  และที่สำคัญเป็นโค้งสุดท้ายของนักล่าทางช้างเผือก หลุดจากช่วงเวลานี้ต้องรออีกทีเดือนมีนาคมปีหน้าเลย แต่ช่วงนี้อากาศจะแค่เย็น ๆเท่านั้น ส่วนรายละเอียด สภาพอากาศ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อ่านต่อด้านล่างได้เลย

 

เชียงใหม่ ไปช่วงไหนดี สภาพอากาศเชียงใหม่แต่ละเดือนเป็นอย่างไร

ตารางสภาพอากาศ ภูมิอากาศรายเดือน จังหวัดเชียงใหม่ เก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2008–2023 ข้อมูลนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น ในบางครั้งที่สภาพอากาศแปรปรวนก็อาจไม่เป็นไปตามนี้ได้

เชียงใหม่ หน้าฝน (กลางเดือนพฤษภาคม-กลางตุลาคม) ในช่วงแรก ๆ ส่วนใหญ่ฝนที่ตกจะเป็นฝนฟ้าคะนองและตกไม่เกิน 1-2 ช.ม. ป่าไม้ภูเขาช่วงนี้จะเริ่มกลับมาเขียวบ้างแล้ว ต่อมาในเดือน ก.ค.- ส.ค. ฝนจะตกแทบทุกวัน(ถ้าไม่อยากเจอฝนถล่มทั้งวัน ไม่แนะนำให้มาช่วงนี้เด็ดขาด) พอเข้าเดือนกันยายนฝนจะเริ่มลดลง แม้ว่าจำนวนวันฝนตกยังเยอะอยู่ แต่ฝนจะตกเพียงแค่ 1-2 ช.ม. เท่านั้น และส่วนใหญ่จะตกตอนบ่ายลงไป(ถ้าอยากมาเก็บบรรยากาศฤดูฝน ให้มาช่วงนี้โลด)  โดยทั่วไปแล้วฝนจะเริ่มหมดประมาณกลางเดือนตุลาคมบวกลบ 2 สัปดาห์ อุณหภูมิช่วงหน้าฝนค่อนข้างคงที่ ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ส่วนตอนกลางวันถ้าท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีเมฆก็ร้อนเหมือนกรุงเทพนี่แหละครับ

หมอกหลังฝนตก บ้านนาเลา เชียงใหม่ ช่วงต้นเดือนตุลาคม รีวิวบ้านนาเลาเพิ่มเติม >>> บ้านนาเลา เชียงดาว

เชียงใหม่ ช่วงปลายฝนต้นหนาว (กลางเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) โดยทั่วไปแล้วช่วงนี้พื้นราบส่วนมากอากาศจะแค่เย็น ๆในตอนเช้า(ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่) ช่วงกลางวันก็ร้อนเหมือนกับที่อื่น ๆ และด้วยความพึ่งออกจากฤดูฝนความชื้นยังสะสมอยู่มาก ทำให้ช่วงนี้บริเวณหุบเขาอย่างห้วยน้ำดัง กิ่วแม่ปาน ดอยอ่างขาง ดอยหลวงเชียงดาว มีโอกาสเกิดทะเลหมอกได้มากที่สุด(เดือน พ.ย. หมอกจะเยอะมากที่สุด) ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าลมหนาวพัดแรงหรือไม่ ถ้าวันไหนลมหนาวพัดแรงหมอกก็จะน้อย แล้วข้อดีของช่วงนี้อีกหนึ่งอย่างคือทัศนวิสัยค่อนข้างดี ยังไม่ค่อยมีหมอกแดดมารบกวนท้องฟ้า เอาเป็นว่าผมยกให้ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมาเที่ยวเชียงใหม่ ส่วนเรื่องของฝนในช่วงนี้ก็พอมีได้บ้างตามบริเวณยอดเขาสูง ๆ แต่ตกไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นฝนละอองกับเมฆหมอกซะมากกว่า สำหรับแม่คะนิ้งบนยอดดอยอินทนนท์จะเกิดขึ้นเฉพาะวันที่ความกดอากาศสูงลงมาแรงมากที่สุดของรอบลมหนาวนั้น ๆ โดยเฉลี่ยแล้วในช่วงนี้จะเกิดแค่ 2-4 วัน/ช่วง เท่านั้น (สถิติส่วนใหญ่จะเกิดประมาณต้น ๆหรือไม่ก็ปลาย พ.ย.ไปเลย)

 
ทะเลหมอกห้วยน้ำดัง ช่วงปลายฝนต้นหนาว รีวิวเพิ่มเติม >>> ห้วยน้ำดัง

เชียงใหม่ หน้าหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) ช่วงนี้เป็นช่วงที่เชียงใหม่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด ยิ่งช่วงที่ความกดอากาศสูงลงมาแรง ๆ อากาศหนาวเลยทีเดียว แต่ไม่ค่อยแตะถึงเลขตัวเดียวนะครับ(ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมามีเลขตัวเดียวแค่วันเดียวเท่านั้น) ส่วนโซนนอกเมืองยังหนาวอยู่ โดยเฉพาะแถบอำเภอเชียงดาวขึ้นไปมีโอกาสเจอเลขตัวได้ไม่ยาก ส่วนบนดอยไม่ต้องสืบอากาศหนาวถึงหนาวจัดทุกวัน ซึ่งช่วงนี้มีโอกาสเห็นแม่คะนิ้งได้มากที่สุด โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนมกราคม-กลางกุมภาพันธ์ แทบจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้วันเว้นวัน ยิ่งไปช่วงที่ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาด้วยแล้วโอกาสเกิดแทบจะเป็น 100%  แม่คะนิ้งจะเห็นได้ง่ายสุดตรงบริเวณกิ่วแม่ปานบนยอดดอยอินทนนท์และสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ส่วนข้อเสียของช่วงนี้ต้นไม้จะเริ่มไม่ค่อยเขียวแล้ว ทะเลหมอกบางพื้นเริ่มน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายฝนต้นหนาว พอถึงเดือนกุมภาพันธ์แทบไม่ต้องถามหาทะเลหมอก โอกาสเกิดแทบไม่มี เพราะความชื้นในอากาศไม่เพียงพอ แถมช่วงนี้หมอกควันเริ่มเข้ามามีบทบาทแทนอีกด้วย สำหรับฝนในช่วงนี้จะมีเฉพาะช่วงที่กระแสลมตะวันตกพัดย้อยลงมาเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะตกเพียง 6-7 วัน/ช่วง ส่วนใหญ่จะเป็นฝนปรอย ๆ เมฆครึ้ม ๆ แล้วหากวันไหนฝนตก บอกเลยว่าวันนั้นอากาศเย็นสบายทั้งวัน แต่ต้องระวัง เพราะบางครั้งมักแถมพ่วงลูกเห็บมาด้วย

ทะเลหมอกบาง ๆ บนจุดชมวิวดอยม่อนแจ่ม รีวิวม่อนแจ่มเพิ่มเติม >>> ดอยม่อนแจ่ม

เชียงใหม่ หน้าร้อน (เดือนมีนาคม-เมษายน) เป็นช่วงที่เรียกได้ว่า Low season ของแท้ เพราะว่าช่วงนี้หมอกควันจากป่าปกคลุมสูงมาก โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถือว่าเป็นช่วงที่มีทัศนวิสัยโดยรวมแย่ที่สุด จะเริ่มดีขึ้นมาหน่อยตอนเข้าพอเข้าเดือนเมษายน ในช่วงที่ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาอาจมีฝนตกลงมาช่วยได้บ้าง แต่ฝนที่ตกส่วนใหญ่จะเป็นฝนฟ้าคะนองตกและตกไม่เกิน 1-2 ช.ม.  ดังนั้นในช่วงเมษายน ต้นไม้ ป่าเขาโดยรวมยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูอาจยังไม่เขียวเท่าไหร่ ในช่วงนี้อากาศค่อนข้างเหวี่ยง ตอนเช้าอากาศจะเย็น ๆ แต่กลางวันจะร้อนมากถึงมากที่สุด(อาจพุ่งเกิน 40 ได้) ไม่แนะนำให้อยู่กลางแจ้งเดี๋ยวผิวจะไหม้ อยู่ที่ร่มก็ไม่ได้ร้อนมาก มันเป็นร้อนแห้ง  ๆ ไม่ได้อบอ้าวเหมือนทางกรุงเทพฯ

 

เที่ยวเชียงใหม่ ไปไหนดี เข้าไปอ่านข้อมูลแต่ละสถานที่เที่ยวกันได้เลย

 

ที่เที่ยวในเมืองเชียงใหม่

 

ที่เที่ยวเชียงใหม่เหนือ

 

ที่เที่ยวเชียงใหม่ใต้

 

ข้อแนะนำในการเที่ยวเชียงใหม่

 

  • ถ้าต้องการดูทะเลหมอก ไม่ว่าจะเป็นที่กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง บ้านนาเลา ห้วยน้ำดัง ควรมาช่วงปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีโอกาสเกิดหมอกได้มากที่สุด ส่วนจะมากหรือน้อยอยู่ที่โชค ถ้าไปช่วงลมหนาวไม่แรงหมอกก็จะเกิดเยอะ แต่ถ้าลมหนาวแรงบอกเลยว่าซวย ฮ่า ๆ
  • บ้านนาเลาใหม่ หรือดอยหลวงเชียงดาว ความสวยงามอลังการมากที่สุดจะอยู่ช่วงกลางเดือนกันยายน-กลางตุลาคม เพราะช่วงนี้ส่วนใหญ่ฝนจะตกช่วงบ่ายถึงเย็น ประมาณ 1-2 ชม. เท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาที่ฝนหยุดตกจะตรงกับแสงเย็นพอดี บอกเลยว่าเป็นช่วงที่สวยโคตร เพราะว่าหมอกหลังฝนตกจะล้อกับภูเขาพร้อมแสงทองกระทบดอยหลวงพอดี ยิ่งโชคดีเข้าไปอีกอาจได้เห็นรุ้งกินน้ำด้วย
  • แม่คะนิ้งหรือเหมยขาบ บนยอดดอยยอินทนนท์หรือกิ่วแม่ปานจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ แต่ช่วงที่มีโอกาสเกิดมากที่สุดจะอยู่ช่วงตั้งแต่กลางมกราคม-กลางกุมภาพันธ์ ส่วนที่ดอยอ่างขางจะเกิดได้ตั้งแต่กลางธันวาคม-กลางกุมภาพันธ์ เท่านั้น จริง ๆแล้วแม่คะนิ้งในเมืองไทยสามารถเกิดได้เมื่ออุณหภูมิอากาศต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส แต่ว่าอุณหภูมิบนยอดหญ้าต้องต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และลมต้องค่อนข้างสงบ ความชื้นสัมพัทธ์สูง
  • ถ้ามาเชียงใหม่แล้วอยากได้บรรยากาศเขียวๆมีหมอกละตามภูเขา หรือหมอกปกคลุมยอดเขาเป็นหย่อม ๆ ก็ต้องมาช่วงฤดูฝน แต่อย่างไรก็ตามถ้ามาช่วงฤดูฝนอาจเจอหมอกปกคลุมจนไม่เห็นอะไรเลยก็ได้ ควรเช็คสภาพอากาศให้ดีด้วย
  • ดอกพญาเสือโคร่งไม่ว่าจะที่ ดอยอินทนนท์ ห้วยน้ำดัง สันปาเกี๊ยะ ขุนช่างเคี่ยน จะเริ่มออกดอกประมาณกลางเดือนมกราคม-กลางกุมภาพันธ์ ยกเว้นดอยอ่างขางที่สามารถเห็นดอกพญาเสือโคร่งได้ตั้งแต่ธันวาคม แต่จะเห็นไม่เยอะ และจะพีคจริง ๆก็ช่วงกลางมกราคมขึ้นไปเหมือนกับที่อื่น ๆ