วัดพระสิงห์
Highlight
- วัดพระสิงห์ เป็นวัดที่มีพระพุทธสิหิงค์ ประดิษฐานอยู่ และภายในวัดมีสถาปัตยกรรมล้านแบบดั้งเดิม
1. วัดพระสิงห์ กับพระพุทธรูปคู่บ้านคูเมืองเชียงใหม่
“วัดพระสิงห์” เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระสิงห์หรือพระพุทธสิหิงค์ ที่หลายคนคงคุ้นหูกันดีอยู่แล้วเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่ เพราะในทุก ๆปีช่วงเทศกาลสงกรานต์หรืองานปี๋ใหม่เมือง จะมีการจัดงานแห่พระพุทธสิหิงค์ขึ้นบุษบกรอบเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้คนเชียงใหม่ได้สรงน้ำพระเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ตามคคติล้านนาที่เราคุ้นเคยได้ยินข่าวทุก ๆปี แน่นอนว่าวัดนี้จึงเป็นวัดสำคัญของชาวเชียงใหม่มาตั้งแต่ในอดีต วัดพระสิงห์เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสวยงามของศิลปะล้านนา ผมมองว่าเหมาะกับการสายถ่ายรูปแนว Life style มาก ๆ ส่วนมาช่วงไหนดี? ผมแนะนำถ้าจะถ่ายด้านหน้าโบสถ์แล้วไม่ให้ย้อนแสงต้องมาก่อนเที่ยง เนื่องจากโยสถ์หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แต่สำหรับคนทั่ว ๆไปมาตอนไหนก็ได้
2. ไปวัดพระสิงห์ มีอะไรให้ดูบ้างภายในวัด
โบสถ์ อาคารรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า มีมุขโถงด้านหลัง มีการตกแต่งแบบศิลปะล้านนาดั้งเดิม มีคิ้วโก่งตกแต่งตรงบริเวณหน้าบันมีลักษณะวงโค้งสองอันประกบหน้ากันเหนือทางเข้า
หอไตร เป็นอาคารที่สร้างขึ้นด้วยปูนผสมไม้ ผนังด้านนอกประดับด้วยทวยเทพปูนปั้น เป็นสถาปัตยกรรมของช่างสมัยพระเมืองแก้ว หรือราว ๆปี พ.ศ. 2000 ต้น ๆ
วิหารลายคำ วิหารนี้จะตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์ มีจิตกรรมปูนปั้นลวดลายสวยงามตามแบบศิลปะทางล้านนา ข้างหน้าทางเข้ามีรูปปั้นสพญานาคคู่และสิงห์อีกสองตัว ภายในวิหารเป็นทีประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์
3.ประวัติฯพระพุทธสิหิงค์
พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางสมาธิ เป็นศิลปะแบบลังกา ตามประวัติศาสตร์เล่ากันว่า พระเจ้าสีหฬะ ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 700 แถบลังกาทวีป(ประเทศศรีลังกาในปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 1500 – 1700 มนุษย์ต่อเรือสำเภาได้สำเร็จยุคการค้าทางเรือได้เริ่มต้น ในช่วงนี้พระพุทธสิหิงค์ถูกนำมาไว้ที่นครศรีธรรมราช(เมืองนี้อยู่ในเส้นทางการค้าในอดีตเลย ไปเปิดแผนที่ดูได้) ต่อมาไม่นานเจ้านครศรีธรรมราชได้ถวายให้กับกรุงสุโขทัย ต่อมาเมื่ออยุธยาไปตีสุโขทัยได้สำเร็จ พระพุทธสิหิงค์ จึงถูกอัญเชิญมาที่กรุงศรีอยุธยา และหลังจากนั้นก็ได้มีคนนำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพรชและเชียงราย ต่อมาพระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ ไปตีเมืองเชียงรายสำเร็จก็อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับมาไว้ที่เชียงใหม่ และเมื่อปี พ.ศ. 2205 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ตีเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จจึงอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นเวลานานถึง 105 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาแตกเป็นครั้งที่ 2 ชาวเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปที่เชียงใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งล้านนาถูกรวมเข้ากลับสยาม ในปี พ.ศ. 2338 สมเด็จพระบวรราชเจ้าสุรสิงหนาท โปรดอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ลงมาประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ พระราชวัง บวรสถานมงคล ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 ส่วนพระพุทธสิหิงค์ที่อยู่เมืองเชียงใหม่เป็นองค์พระจำลองนะครับ อ้าวซะงั้น ร่ายมาซะยาว สรุป Time line ง่าย ๆ ดังนี้ สร้างขึ้นที่ลังกา -> นครศรีธรรมราช -> สุโขทัย -> อยุธยา -> กำแพงเพรช -> เชียงราย ->เชียงใหม่ -> อยุธยา -> เชียงใหม่ -> กรุงเทพมหานคร
