ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่
Highlight
- ห้วยน้ำดัง เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกตอนเช้า จุดเด่นคือมีดอยหลวงเชียงดาวเป็นฉากหลัง ส่วนแสงเย็นที่ห้วยน้ำดังจะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกตรง ๆ ดังนั้นแสงเย็นพอเก็บได้ แต่ไม่สวยเท่ากับตอนเช้า
- เดือนพฤศจิกายน คือช่วงเวลาเหมาะสมกับการมาห้วยน้ำดังมากที่สุด เพราะมีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้เยอะที่สุด
- ด้านบนห้วยน้ำดังจะมีบ้านพักของอุทยานฯและลานกางเต็นท์ให้พร้อม แล้วแต่ว่าจะสะดวกพักแบบไหน
1. ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่ ไม่ใช่แค่ทางผ่านไปปาย
โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะแวะห้วยน้ำดังเวลาไปเที่ยวปายหรือกลับจากแม่ฮ่องสอน ที่ใช้เส้นทางปาย-แม่แตง(ทล.1095) และมักจะแวะกันช่วงกลางวัน แน่นอนว่าถ้ามาช่วงเวลานี้ก็คงไม่เจอทะเลหมอก จึงทำให้ดูเหมือนว่าที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรเป็นวิวภูเขาธรรมดาเท่านั้น แต่เอาเข้าจริง ๆแล้วถ้าใครได้มีโอกาสมาสัมผัสทะเลหมอกช่วงเช้าแล้วบอกเลยว่าแม่งโคตรสุด ด้วย Landscape ของห้วยน้ำดังที่เห็นค่อนกว้างไกล แล้วแถมมีดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ซึ่งหลายคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่าดอยหลวงเชียงดาวถือเป็นพระเอกของภูเขาในไทยเลย ส่วนว่าทำไมที่นี่ถึงชื่อว่า “ห้วยน้ำดัง” ก็เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้เกิดจากการแทรกตัวของหินลาวาในอดีต ทำให้แผ่นเปลือกโลกบริเวณนนี้โก่งตัวสูงขึ้นและมีบางส่วนทรุดลงไป นอกจากจะทำให้เกิดภูเขาและแอ่งหุบเขาแล้วยังทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อนหลายจุดด้วย บางบ่อน้ำพุร้อนก็มีเสียงน้ำเดือดดังบุ๋ง ๆ จึงน่าจะเรียกพื้นที่แถบนี้ว่า “ห้วยน้ำดัง” (อันนี้ผมมโนเอาเองนะ555) แต่น้ำพุร้อนเดือด ๆอะมีจริง ๆ รู้สึกจะชื่อว่า “น้ำพุร้อนโป่งเดือด”
“ห้วยน้ำดัง” หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะสงสัยว่ามันอยู่ที่ไหนกัน ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจะพาไปรู้จักเอง “อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ และ อ.ปาย จ. แม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับกับหุบเขาในแนวขนานเหนือใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยตอนเหนือติดกับเทือกเขาแดนลาวที่มีความสูงเฉลี่ยสันเขาประมาณ 1,200 – 1,962 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยมียอดสูงสุดคือดอยช้าง สูง 1,962 เมตร อันที่จริงแล้วถนนทางเข้าไปที่ทำการอุทยานฯ ก็คือแนวสันเขาที่แบ่งเขตระหว่างแม่ฮ่องสอนกับเชียงใหม่นั่นเอง ส่วนบริเวณที่ทำการอุทยานฯหรือจุดชมวิวห้วยน้ำดังจะตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,615 เมตร ทำให้บนนี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละเดือนตามตารางด้านล่างเลย
2. ห้วยน้ำดัง ไปช่วงไหน ทะเลหมอกไม่อู้งาน
“ห้วยน้ำดัง” เนื่องจากว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงจึงทำให้มีลักษณะภูมิอากาศแบบภูเขา อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงตามระดับความสูง และมีความผันผวนของสภาพอากาศค่อนข้างสูง แต่ยังไงก็ตามก็มี Pattern อากาศในหนึ่งปีคล้ายๆ กับยอดเขาอื่น ๆในภาคเหนือของไทย ซึ่งผมจะแบ่งออกเป็นช่วงเวลาแต่ละเดือนดังนี้
ห้วยน้ำดัง ปลายฝนต้นหนาว (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่ห้วยน้ำดังมีความสวยงามและมีโอกาสเกิดทะเลหมอกตอนเช้ามากที่สุด เนื่องจากว่าช่วงนี้ความชื้นสะสมจากฤดูฝนยังไม่หายไปไหน พออากาศเย็นจากจีนแผ่ลงมา ความชื้นที่สะสมอยู่นี้จะเป็นตัวช่วยก่อให้เกิดทะเลหมอกง่ายขึ้น ผมการันตีเลยว่ามาช่วงนี้ยังไงก็ได้ภาพทะเลหมอกสวย ๆ แถมช่วงนี้ป่าไม้บนภูเขายังเขียวอยู่ด้วย ทัศนวิสัยค่อนข้างดีและยังไม่ค่อยมีหมอกแดดมาปกคลุม
ห้วยน้ำดัง หน้าหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่คนนิยมมามากที่สุด และห้วยน้ำดังหนาวมากที่สุด ช่วงนี้อากาศหนาวจริงแต่เรื่องทะเลหมอกอาจจะต้องลุ้นหน่อย เพราะบางทีเวลาลมหนาวจากจีนลงมาแรงก็ไม่สามารถเกิดหมอกได้ ยิ่งหลังเดือนมกราคมเป็นต้นไป ทะเลหมอกจะเกิดน้อยมาก ความชื้นไม่พอ อากาศช่วงนี้ค่อนข้างหนาวแห้ง เริ่มมีหมอกแดดมารบกวนบ้างแล้ว ส่วนดอกพญาเสือโคร่งจะเริ่มผลิดอกประมาณกลางเดือนมกราคม
ห้วยน้ำดัง หน้าร้อน (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ช่วงนี้ผมว่าค่อนข้างไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงที่เกิดหมอกแดดหรือหมอกควันปกคลุม ทำให้ไม่เห็นแนวเทือกเขาเบื้องล่าง ดอยหลวงเชียงดาวไม่ต้องพูดถึงไม่เห็นแน่นอน ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูร้อนแต่อากาศยังหนาวเย็นอยู่นะครับ ใครต้องการมาพักผ่อนสงบๆแบบไม่มีผู้คนก็มาได้นะ แต่เรื่องหมอกควันผมไม่รับประกันจริง ๆ โดยเฉพาะเดือนมีนาคมไม่แนะนำให้มาเลย
ห้วยน้ำดัง หน้าฝน (เดือนมิถุนายน-กันยายน) ผมเองก็ยังไม่เคยมาฤดูฝน แต่มีรุ่นพี่ที่เคยเที่ยวเขาบอกว่าบนห้วยน้ำดังส่วนใหญ่แล้วอากาศจะปิดมีเมฆหมอกปกคลุมทั้งวัน แต่พี่เขาบอกว่าตอนช่วงจังหวะฟ้าเปิดนี่คือสวรรค์บนดินชัดๆ เอาเป็นว่าถ้าผมไปช่วงนี้เมื่อไหร่จะเอามาบอกนะครับว่ามันสวยจริง ๆ หรือป่าว
โดยสรุปคำถามที่ว่า “ห้วยน้ำดัง” ไปช่วงไหนสวยที่สุด ทะเลหมอกเยอะที่สุด? ผมขอตอบเลยว่า “ช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือ เดือนพฤศจิกายน” เพราะมีโอกาสเจอทะเลหมอกได้มากที่สุด แล้วยังเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเก็บทางช้างเผือกได้อีกด้วย
3. เก็บแสงเช้ากับทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดัง
สิ่งที่ไม่ควรพลาดมาก ๆเลยเมื่อมาถึงห้วยน้ำดังแล้ว คือการตื่นเช้าขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับทะเลหมอกอันกว้างไกลแล้วมีดอยหลวงเชียงดาวตั้งโด่เด่ทะลุทะเลหมอกขึ้นมา ยิ่งใครที่หลงใหลในความสวยงามของดอยหลวงเชียงดาวเหมือนผมแล้วก็ไม่ควรพลาดที่จะมาดูด้านหลังของดอยหลวงเชียงดาวที่ห้วยน้ำดังเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าความพิเศษของดอยหลวงเชียงดาวก็คือไม่ว่าจะมองจากมุมไหนรูปทรงของภูเขาก็จะไม่เหมือนกันเลย
สำหรับแสงเย็นแล้วที่ “ห้วยน้ำดัง” จะไม่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกได้โดยตรง หากจะเก็บพระอาทิตย์ตกดินต้องไปจุดชมวิวก่อนจะถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งจุดนั้นจะหันไปทางด้านทิศตะวันตกหรืออำเภอปายพอดี แต่ถ้าใครขี้เกียจขับรถไปมาที่จุดชมวิว ก็สามารถเก็บแสงเย็นตรงบริเวณที่ทำการอุทยานฯได้ ซึ่ง High light จะอยู่ตรงช่วงประมาณก่อนพระอาทิตย์ตกดินครึ่งชั่วโมง เพราะเป็นช่วงที่จังหวะแสงสีทองสาดไปยังดอยหลวงเชียงดาวพอดี ถ้าใครมีเลนส์ระยะ 50 mm กล้องคัวคูณ หรือ 85mm สำหรับกล้องฟูลเฟรม ให้ยิงไปที่ดอยหลวงเชียงดาวเลยครับ รับรองว่าสวยแน่นอน
4. ไปห้วยน้ำดัง กางเต็นท์หรือพักที่บ้านอุทยานฯดี
บริเวณลานชมวิวของห้วยน้ำดังมีลานกางเต็นท์กว้างมาก ถ้าเทียบกับคนมาเที่ยวแล้วค่อนข้างเหลือเฟือ ห้องน้ำอุทยานฯมีให้ครบเลยครับ ด้านบนมีร้านอาหารของอุทยานฯให้บริการพร้อมหมด ถ้าหากใครอยากนอนสบาย ๆ หน่อยก็สามารถจองบ้านพักของเว็บไซด์กรมอุทยานแห่งชาติได้เลยครับ หลายคนบอกว่าแพงแต่ผมว่าราคากลาง ๆ นะครับ หลังละ 2,400 บาทต่อคืน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันนอนได้ถึง 6 คนแบบสบาย ๆ ก็ตกคนละ 400 บาท/คน/คืน เองนะครับ ส่วนถ้าจองช่วงวันธรรมดาจะได้ลด 30% หรือประมาณ 1,680 บาทต่อคืน ซึ่งเฉลี่ยคนละ 280 บาท/คน/คืน เท่านั้น เรียกได้ว่าถูกมาก!!!