น้ำตกพลิ้ว
Highlight
- น้ำตกพลิ้ว เป็นหนึ่งในสถานที่ใครมาจันทบุรีแล้วก็ไม่ควรพลาด ถ้าอยากมาแล้วเจอน้ำเยอะ ๆ ให้ไปช่วงเดือน กรกฎาคม-พฤศจิกายน และในเดือนเมษายนปริมาณน้ำจะน้อยที่สุด(พอเล่นน้ำคลายร้อนได้ แต่ไม่สวย) เรื่องของกินไม่ต้องห่วง เพราะบริเวณแถวลานจอดรถหรือหน้าประตูทางเข้ามีร้านค้าของกินให้เลือกเพียบ ไม่อดอยากแน่นอน
1. น้ำตกพลิ้ว น้ำตกสวยใกล้เมืองจันทบุรี
ผมคิดว่านักท่องเที่ยวหลายคนน่าจะรู้จักน้ำตกพลิ้วกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะน้ำตกพลิ้วเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี และตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองจันทบุรีห่างกันเพียงแค่ 14 กิโลเมตร เท่านั้น(ไปทางตราด) “น้ำตกพลิ้ว”เป็นน้ำตกขนาดกลางเกิดจากการรวมกันของลำน้ำ 2 สาย สายแรก(ขวามือ)น้ำจะไหลลดหลั่นตามชั้นหินหน้าผาลงมา ส่วนสายที่สอง(ซ้ายมือ)จะทิ้งดิ่งลงมาด้วยความสูง 20 เมตร ลำน้ำทั้งสองสายจะไหลลงมารวมกันตกลงไปสู่แอ่งน้ำด้านล่างที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นได้ แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อยและถือเป็น signature ของที่นี่เลยก็คือ “ปลาพวงเงิน” ที่อาศัยอยู่ในน้ำตกพลิ้วนั่นเอง เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ไปน้ำตกพลิ้ว ก็จะเห็นปลาพวงว่ายไปว่ายมากันเยอะมาก(ใครลงเล่นน้ำก็ระวังปลาตอดด้วย) ผมแนะนำว่าถ้ามาจันทบุรีในช่วงฤดูร้อนแล้วไม่รู้จะไปไหน ก็มานั่งเล่นน้ำคลายร้อนชิว ๆกันได้ที่นี่เลย รับรองว่าชุ่มช่ำแน่นอน ไม่ได้เย็นชุ่มช่ำนะครับ เหงื่อชุ่มเลย ร้อนชื้นของจริงมาก ส่วนเรื่องของอาหารการกินก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตรงบริเวณหน้าทางเข้าน้ำตกพลิ้วหรือด้านหน้าลานจอดรถจะมีร้านค้าขายของกินเพียบ ตามแบบฉบับของสถานที่ท่องเที่ยวไทย ๆเลย
ไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถมาถึงจันทบุรีหรือกำลังจะไปตราด เราจะเห็นภูเขาสูงตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของเมืองจันทบุรี อันที่จริงแล้วภูเขาลูกนี้คนจันทบุรีเรียกว่า “เขาสระบาป” ส่วนทำไมถึงชื่อเขา “สระบาป” ตามรายงานของอาจารย์ สุจิตต์ วงษ์เทศ แกบอกไว้ว่า จริง ๆแล้วก็แผลงมาจากคำว่า “สระล้างบาป” นั่นแหละ ซึ่งเป็นคำโบราณที่เรียกกันมาช้านานตั้งแต่สมัยที่จันทบุรียังปกครองโดยอณาจักละโว้ เทือกเขาสระบาปแห่งนี้เป็นต้นน้ำลำธารสำคัญมากของลุ่มแม่น้ำจันทบุรี ซึ่งหล่อเลี้ยงชาวจันทบุรีมาตั้งแต่เนิ่นนาน และแน่นอนว่าน้ำตกพลิ้ว ก็เป็นหนึ่งในสายน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสระบาปแห่งนี้นั่นเอง
“เขาสระบาป” ปัจจุบันก็คืออุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วทั้งหมด มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 700 เมตร และมียอดเขามาบหว้ากรอกเป็นยอดสูงสุด สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 924 เมตร ส่วนการขึ้นไปบนยอดเขาสระบาปนั้นค่อนข้างยากและไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากว่าป่าเขาบริเวณนี้มีลักษณะเป็นป่าดิบชื้น และพอขึ้นไปก็คงไม่ค่อยได้เห็นวิวสวย ๆสักเท่าไหร่ เนื่องจากบนยอดเขาสระบาปมักมีเมฆหมอกปกคลุมอยู่เสมอ อารมณ์คล้าย ๆกับเขาคิชฎกูฏ ก็คงยากมากที่ด้านบนจะมองลงมาแล้วจะเห็น Landscape สวย ๆกว้างไกล ดังนั้นเที่ยวแค่น้ำตกพลิวก็พอแล้ว แต่ถ้าอยากจะขึ้นเขาจริง ๆ แนะนำให้ไปผาหินกูบที่อุทยานแห่งชาติเขาสอยดาวเลย เห็นเขาว่าวิวสวยกว่า แต่ผมเองก็ไม่เคยขึ้นเหมือนกันนะ
2. น้ำตกพลิ้วไปช่วงไหนสวยที่สุด
“เขาสระบาป” เป็นภูเขาสูงใกล้ชายฝั่งทะเลทำให้บริเวณนี้สามารถเกิดฝนตกและมีความชื้นสูงตลอดทั้งปี แน่นอนว่านอกจากน้ำตกพลิ้วจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปีแล้วป่าไม้บริเวณรอบ ๆก็ยังเขียวขจีได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย แต่คราวนี้มันจะมีความต่างกันอยู่บ้าง คือช่วงเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน ปริมาณน้ำตกจะไหลเยอะมาก ต่างกับช่วงเดือนธันวาคม – พฤษภาคม ที่น้ำตกจะไหลน้อย และจะน้อยที่สุดในช่วงเดือนเมษายน (ที่นี่ฝนจะแล้งประมาณธันวาคม – กุมภาพันธ์ หรือช่วงที่ลมหนาวลงมาเท่านั้น) สำหรับรูปภาพทั้งหมดในเพจนี้ผมถ่ายช่วงเดือนเมษายนทั้งหมดครับ
