วังศิลาแลง
Highlight
- วังศิลาแลงแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบความแปลกของธรรมชาติทางธรณีวิทยา แนะนำให้มาช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จะดีที่สุด เพราะลำน้ำกูนจะไหลน้อย ทำให้ลงไปถ่ายรูปหรือเล่นน้ำด้านล่างได้ แต่ถ้ามาช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก ลำน้ำกูนจะไหลเยอะ และเป็นสีแดงไม่เหมาะกับการลงไปในลำน้ำอย่างยิ่ง
1.วังศิลาแลง มหัศจรรย์ล่องน้ำบนรอยเลื่อน
“วังศิลาแลง” เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาของจังหวัดน่าน หากใครเป็นสายชอบเที่ยวดูธรรมชาติแปลกๆ ผมว่าวังศิลาแลงเป็นหนึ่งในสถานที่ไม่ควรพลาดมาก ๆ ในช่วงฤดูร้อนวังศิลาแลง ก็เหมาะกับการมาแช่น้ำเย็นๆคลายร้อนได้ดีมากอีกเช่นกัน ปัจจุบันนี้วังศิลาแลงก็ยังไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่นะครับ แม้ว่ามันจะห่างจากร้านอาหารยอดนิยมอย่างฟาร์มบ้านเห็ดหัวน้ำเพียงแค่ 500 เมตร แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเสมอฮ่า ๆ แน่นอนว่าที่นี่เงียบสงบมาก ๆ ถึงจะเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลก็ตาม สำหรับคำว่า “วังศิลาแลง” แต่เดิมคนแถวนี้เรียกว่า “วังบอก” เกิดจากลำน้ำกูนไหลลงมาจากดอยภูคาผ่านชั้นหินที่เป็นรอยเลื่อนเกิดการกัดเซาะแบบหมุนวนในระยะเวลาหลายพันปี ทำให้ชั้นหินมีลักษณะเป็นทรงเหมือนรูปกระบอก จึงเรียกกันว่า ”วังบอก” ส่วนคำว่า “วัง” ก็คือสายน้ำนั่นเอง แต่ภายหลังพอเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจึงใช้ชื่อตามหมู่บ้านศิลาแลง กลายเป็น “วังศิลาแลง” เพื่อจะได้จำชื่อและหาได้ง่าย จริง ๆแล้ววังศิลาแลงมีวังน้ำถึง 7 วัง ระยะความยาวรวมประมาณ 400 เมตร แต่เดินเข้าไปเที่ยวกันจริง ๆก็เพียง 2-3 วังแรกเท่านั้น เพราะขึ้นไปมากกว่านั้นอาจจะต้องปีนป่ายกันสักหน่อย
2.วังศิลาแลงมาช่วงไหนดี? ที่น้ำจะใสแล้วไม่ท่วม
ช่วงเวลามาเที่ยวที่เหมาะสมของวังศิลาแลงอาจจะแปลกแหวกแนวสักหน่อย ก็คือควรมาช่วงฤดูแล้งหรือเดือนมีนาคม-เมษายน เพราะช่วงนี้ลำน้ำกูนจะมีปริมาณน้ำไหลน้อยและใส ทำให้เราสามารถไต่หินลงไปถ่ายภาพหรือเล่นน้ำได้ แถมเป็นช่วงที่สภาวะอากาศจังหวัดน่านมีหมอกแดดหรือหมอกควันปกคลุมท้องฟ้าช่วยลดทอนแสงอาทิตย์ ทำให้ง่ายต่อการถ่ายรูปด้วยเทคนิค long exposure โดยไม่ต้องใส่ฟิลเตอร์ตัดแสงเลย(นี่แหละประโยชน์ของหมอกควันฮ่า ๆ) นับว่าเป็นหนึ่งในสถานที่หมอกควันมีประโยชน์มาก ๆ ส่วนในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูน้ำหลาก น้ำจะล้นขึ้นมาตรงหินด้านบน ไม่สามารถลงไปถ่ายข้างล่างและเล่นน้ำได้ และสีของน้ำจะออกขุ่นๆสีน้ำตาลแบบน้ำป่า ถ้าใครมาช่วงฤดูฝนแนะนำว่าให้ไปเที่ยวที่อื่นดีกว่าครับ
3.การเดินทางไปยังวังศิลาแลง
การเดินทางมาวังศิลาแลงจะค่อนข้างซับซ้อน แนะนำให้เปิด GPS เลยครับ ฮ่า ๆ แต่ถ้าเอาแบบแมนนวลก็อยู่ใกล้ร้านฟาร์มหัวเห็ดเลยไป 500 เมตร ให้มาเส้นทาง 1081 จากแยกปัว พอถึงทางเข้าบ้านหัวน้ำก็เลี้ยวขวาเลย เมื่อมาถึงลานจอดรถแล้วจะต้องเดินขึ้นเขาเลียบลำน้ำกูนเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร จากฝายเก็บน้ำ เป็นทางเดินป่าค่อนข้างแคบแต่เดินไม่ลำบากเท่าไหร่ ชันแค่บันไดช่วงแรก ในช่วงฤดูแล้งสามารถเดินลุยน้ำไปต่อได้ก็จะมีอีก 7 วัง
4.ธรณีวิทยาของวังศิลาแลง
วังศิลาแลงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาของจังหวัดน่าน ที่สามารถเห็นรอยเลื่อนได้ชัดเจนจากการกัดเซาะของลำน้ำกูนที่ไหลผ่านตามแนวรอยเลื่อนย่อยของรอยเลื่อนปัว ผมขอเรียกว่ารอยเลื่อนย่อยนี้ว่า”รอยเลื่อนวังศิลาแลง” ซึ่งรอยเลื่อนย่อยนี้ไม่มีพลังแล้ว แต่ว่าตั้งฉากกับรอยเลื่อนปัวที่ยังมีพลังอยู่ และด้วยภูมิลักษณะภูเขาทรงแก้วไวน์(Y-glass) ที่เกิดจากร่องน้ำพาดผ่านรอยเลื่อนที่พลังยังบ่งบอกได้อีกว่า “รอยเลื่อนปัวเป็นรอยเลื่อนแนวดิ่งแบบปกติและยังมีพลังอยู่พร้อมที่แผ่นดินจะไหวได้ทุกเมื่อ” แต่ไม่ต้องกังวลจากสถิติแล้วมันจะไหว 10-15 ปี/ครั้งได้