กว๊านพะเยา
Highlight
- ความสวยงามของกว๊านพะเยา คือเป็นบึงที่มีทิวเขาสูงเป็นฉากหลัง ทำให้เห็นพระอาทิตย์ลับขอบภูเขาได้ในตอนเย็น “กว๊านพะเยา” ควรมาก่อนพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงเวลาสวยที่สุดของที่นี่
- “วัดศรีโคมคำ” เป็นวันคู่บ้านคู่เมืองของชาวพะเยา ตั้งอยู่อยู่ริมกว๊านพะเยา ตรงนี้ก็สามารถชมววิกว๊านได้เหมือนกัน และอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คือจุดชมวิวมุมสูงกว๊านพะเยา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 120 กิโลเมตรที่ 20 สามารถมองเห็นแอ่งพะเยาได้กว้างไกลที่สุด
1. กว๊านพะเยา สัญลักษณ์เมือพะเยา
ถ้าหากมีใครพูดถึงจังหวัดพะเยาแล้ว สิ่งที่แรกที่ทุกคนนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น “กว๊านพะเยา” อันที่จริงแล้วถ้าจะบอกว่ากว๊านพะเยาเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองพะเยาก็ไม่ผิด ด้วยความที่กว๊านพะเยามีแนวเทือกเขาสูงทอดตัวด้านหลังจึงทำให้มีทัศนียภาพของบึงขนาดใหญ่ที่มีสวยงามไม่แพ้กับสถานที่เที่ยวอื่น ๆในภาคเหนือเลย ปัจจุบันกว๊านพะเยาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว High light ของจังหวัดพะเยาที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด(จริง ๆ มันก็อยู่ในเมืองยังไงก็ต้องผ่าน) นอกจากนี้กว๊านพะเยายังเป็นสวนสาธารณะของคนเมืองพะเยาด้วย ส่วนใครไม่ใช่สายถ่ายรูปก็มานั่งกินลมชมวิวริมทะเลสาปชมพระอาทิตย์ลับขอบภูเขากันได้นะครับ
กว๊านพะเยา คำว่า “กว๊าน” ตามภาษาพื้นเมืองพะเยา แปลว่า “จุดศูนย์รวม” ดังนั้น กว๊านพะเยา ก็คือจุดศูนย์รวมของลำน้ำทั้งหมด 18 สายที่ไหลลงมาจากเทือกเขาผีปันน้ำฝั่งตะวันตก รวมถึงดอยหลวงซึ่งเป็นเทือกเขาที่อยู่ด้านหลังกว๊านพะเยานั่นเอง เดิมกว๊านพะเยาเป็นพื้นที่ราบลุ่มแอ่งกระทะไม่ได้มีบึงน้ำขนาดใหญ่หรอกนะครับ จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2484 กรมประมงได้ทำประตูกั้นน้ำเพื่อเก็บน้ำในฤดูแล้ง และกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมด้านล่างของประตูน้ำ ทำให้น้ำหลายสายไหลมารวมกันในแอ่งจึงกลายเป็นบึงน้ำที่ใหญ่สุดในภาคเหนือมีพื้นที่ของบึงเฉลี่ย 12-18 ตร.กม. นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวพะเยา มีการนำน้ำมาใช้ทั้งการอุปโภค การประมง และมีความสำคัญต่อชีวิตสัตว์น้ำที่อยู่ในกว๊านพะเยาอย่างมาก และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ปลาส้ม ปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลาไน และปลานิล
2. ดูพระอาทิตย์ลับภูเขา ณ กว๊านพะเยา
ช่วงที่สวยที่สุดของกว๊านพะเยาจะอยู่ในช่วงตอนเย็น เพราะด้านทิศตะวันตกจะเป็นแนวเทือกเขาที่เป็นฉากหลังของกว๊านพะเยา แน่นอนว่าเราจะเห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆลับภูเขาในช่วงตอนเย็นเท่านั้น ถ้าให้ดีควรมาที่นี่ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน 1 ช.ม. เนื่องจากพระอาทิตย์จะลับขอบภูเขาก่อนเวลาตกดินจริงประมาณ 15-20 นาที(คือ 15-20 นาทีก่อนเวลาตกในแอปโทรศัพท์) เพื่อจะได้เก็บช่วงเวลาแสงทอง(Golden Hour)ในตอนเย็นได้ทัน
ในช่วงเช้ากว๊านพะเยาอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เนื่องจากอยู่มุมตรงข้ามกับพระอาทิตย์ขึ้นพอดี และส่วนมากในช่วงหน้าหนาวก็อาจมีหมอกในตอนเช้าได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมมกราคม ซึ่งถ้ามีหมอกเราจะมองอะไรแทบไม่เห็นในกว๊านพะเยาเลย
4.วัดศรีโคมคำ วัดริมกว๊านพะเยา
วัดศรีโคมคำ เดิมชื่อวัด “พระเจ้าตนหลวง” ตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมกว๊านพะเยาได้อย่างสวยงาม ซึ่งภายในวิหารของวัดศรีโคมคำยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าตนหลวง เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัย ศิลปะแบบเชียงแสน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพญาเมืองยี่ครองเมืองพะเยา หรือประมาณปี พ.ศ. 2034 ( 500 กว่าปีที่แล้ว) และยังเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพะเยาอีกด้วย
ในยุคทองพระพุทธศาสนาของล้านนา “พระเจ้าตนหลวง” หรือ “พระเจ้าองค์หลวง” ไม่ได้เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองล้านนาไทยด้วย ชาวล้านนาเชื่อว่าพระเจ้าตนหลวง เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ใครที่ได้มากราบสักการะแล้ว จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ในช่วงวันวิสาขบูชาของทุกปี หรือประมาณเดือนพฤษภาคม จะมีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวง(เทศกาล “แปดเป็ง”) จะมีประชาชนในจังหวัดพะเยาและจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
3. จุดชมวิว Top view กว๊านพะเยา
จริง ๆแล้วเราสามารถชมกว๊านพะเยาจากมุมสูงได้ ซึ่งจุดชมวิวตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 900 เมตร และอยู่เหนือกว๊านพะเยาประมาณ 500 เมตร ทำให้เห็น Landscape ของแอ่งกว๊านพะเยาเกือบทั้งหมด จุดชมวิวกว๊านพะเยา ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 120 (พะเยา-วังเหนือ-แม่เจดีย์) ห่างจากแยกเกษตรสุข(จากถนนพหลโยธิน ทล.1)ประมาณ 20 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองพะเยา 30 กิโลเมตร อันที่จริงแล้วตรงนี้เป็นจุดแวะพักรถสำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวจากเมืองพะเยาไปยังจังหวัดเชียงใหม่หรือลำปางต่อ ซึ่งจะต้องใช้เส้นทางทล.120 เป็นทางสัญจร หากใครมีโอกาสผ่านแล้วก็อย่าลืมแวะนะครับ สำหรับผมแล้ว Landscape สวยนะ ถ้าหากไม่มีหมอกแดดลง(ตอนผมไปหมอกแดดลงหนักมาก) ซึ่งบริเวณนี้มีห้องน้ำและร้านค้าขายของฝากพื้นเมืองให้เลือกซื้อหลายร้านด้วย