กังหันลมเขาค้อ

กังหันลมเขาค้อ

Highlight
  • กังหันลมผลิตไฟฟ้าเขาค้อ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ใครมาเขาค้อแล้วก็ไม่ควรพลาด ด้านบนเราจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลไปถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ในช่วงต้นฤดูหนาวบนนี้จะมีทุ่งดอกเบอร์วีน่าให้ได้ชมด้วย และบนนี้ไม่จะฤดูไหนในตอนกลางคืนก็มีอากาศที่เย็นสบาย ใครจะมานอนกางเต็นท์ก็ได้นะครับ มีจุดกางเต็นท์ของชาวบ้านรองรับอยู่

1. กังหันลมเขาค้อ จุดชมวิวเขาค้อที่ไม่ควรพลาด

หลายคนเมื่อมาเยือนเขาค้อแล้วเห็นเสาขาว ๆ สูง ๆตั้งอยู่บนเนินเขาสูงก็คงตั้งคำถามว่ามันคืออะไร? แล้วอยู่ตรงไหน? แท้จริงแล้วก็คือ “ กังหันลมเขาค้อ” ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร ในพื้นที่กว่า 350 ไร่ ทำให้บริเวณนี้มีทัศนียภาพที่กว้างไกลสามารถมองเห็นวัดผาซ่อนแก้วที่อยู่ไกลออกไปทางทิศตะวันออกได้ และคนภายนอกที่มาเยือนเขาค้อก็เห็นกังหันลมได้จากระยะไกลเช่นกัน ตรงบริเวณนี้ยังมีจุดให้ถ่ายรูปอีกเยอะมากไม่ว่าจะเป็น ชิงช้าชาวเขา ไร่สตอร์เบอรี่ หรือสายช็อปที่นี่ก็สามารถซื้อสินค้าของฝากได้เหมือนกัน และก็มีจุดบริการกางเต็นท์ให้ด้วย อากาศบนนี้จะเย็นกว่าแคมป์สนประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส  แน่นอนว่าบนนี้อากาศตอนกลางคืนเย็นตลอดทั้งปี ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศร้อนเลย

กังหันลมเขาค้อ ทุ่งดอกเบอวีน่า

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์ หน้าฝน

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์ หน้าฝน

ส่วนที่ไปที่มาว่าทำไมต้องมาสร้างกังหันลมบนนี้ ก็เนื่องจากว่าบริเวณมีลักษณะเป็นพื้นที่สูงโล่งกว้างไม่มีสิ่งกีดขวางของลมภูเขาที่มีความสูงมากกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้ลมระดับบนมีความเร็วต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 18-22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2559  บริษัท เขาค้อวินพาวเวอร์ จำกัด ได้รับสัญญาซื้อไฟฟ้าประเภทโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก(SPP) จาก กฟผ. เป็นเวลา 25 ปี จึงได้เริ่มการลงทุนเป็นมูลค่า 5,200 ล้านบาท โดยมีการติดตั้งกังหันลมทั้งหมด 24 ต้น ความสูง 110 เมตร ใบพัดยาว 60 เมตร สามารถผลิตไฟฟ้าเต็มพิกัดสูงสุด 2.5 เมกะวัตต์/ต้น ที่ความเร็วลม 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะหยุดล็อกการทำงานของใบพัดเมื่อมีลมพัดแรงมากกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นไม่ต้องกลัวลมพัดแรงแล้วใบพัดปลิวใส่หัวนะครับ จริง ๆแล้วความน่าทึ่งมันอยู่ในขั้นการสร้างอยู่ที่ตอนขนส่งใบพัดขนาด 60 เมตร หนัก 13.5 ตัน มาตามถนนจากท่าเรือแหลมฉบังมายังเขาค้อที่ต้องผ่านทางคดโค้งและแคบ โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน สามารถไปดูต่อได้ที่นี่เลยแล้วจะรู้ซึ้งในความพยายามของมนุษย์

กังหันลมเขาค้อ ทุ่งดอกเบอวีน่า

กังหันลมเขาค้อ ทุ่งดอกเบอวีน่า

กังหันลมเขาค้อ ทุ่งดอกเบอวีน่า

สำหรับการเดินทางเข้าไปยังกังหันลม เส้นทางเป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.ก็จะถึงทุ่งกังหันลม หรือเอาง่าย ๆขับรถตามเสาไฟแบบ 115 KV มาเลยถึงแน่นอน

 

2. กังหันลมเขาค้อ ไปช่วงไหนดี

ผมเองเคยเดินทางมา “กังหันลมผลิตไฟฟ้าเขาค้อ” อยู่สองฤดูกาล ในแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ในช่วงหน้าฝน(มิถุนายน-กลางตุลาคม) เราจะได้บรรยากาศหญ้าบนภูเขาเขียว ๆ ท้องฟ้ามีเมฆครึ้ม ๆ มีหมอกละตามภูเขาสลับแดดบ้าง โดยส่วนตัวผมชอบหน้าฝนมากที่สุดนะครับ ส่วนในช่วงหน้าหนาว(กลางตุลาคม-กุมภาพันธ์)บนนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใสและลมพัดแรง ช่วงต้น ๆ(กลางตุลาคม-ธันวาคม) หญ้าบนภูเขาจะยังเขียวอยู่ แต่พอหลังจากนั้น หญ้าหรือต้นไม่ต่าง ๆจะเริ่มร่วงและเป็นสีน้ำตาล ทำให้ดูแล้ง ๆ คล้ายกับช่วงหน้าร้อนต่างกันเพียงแค่หน้าหนาวอากาศเย็นกว่าเท่านั้น และข้อดีของช่วงต้นหนาวคือทุ่งดอกเวอร์บีน่าจะบาน(ดอกสีม่วง ๆในรูปแรก)ในสวนของหมู่บ้านชาวเขา(ปัจจุบันเก็บค่าเข้าคนละ 10 บาท) สำหรับหน้าร้อนที่นี่จะไม่ค่อยมีอะไรส่วนใหญ่ต้นไม้ใบหญ้าจะแห้งเป็นสีน้ำตาล กลางวันอากาศร้อน กลางคืนอากาศเย็นถึงหนาว ถ้าไม่คิดเอาธรรมชาติสวย ๆก็มากางเต็นท์นอนรับลมเย็น ๆตอนกลางคืนได้ครับ (แต่ผมไม่เคยมาช่วงหน้าร้อนนะ เคยดูรูปของคนอื่นที่เขาไปมา 555)

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์ หน้าฝน

กังหันลมเขาค้อ เพรชบูรณ์ หน้าหนาว