ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม
Highlight
- ทุ่งดอกกระเจียว จะออกดอกบานเยอะที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และควรไปช่วงเช้าถึงสาย เพราะนอกจากดอกไม้จะบานพีคสุดแล้วยังได้สายหมอกเย็น ๆปกคลุมเป็นฉากหลังด้วย
- การเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวทางอุทยานฯจะมีรถรางให้บริการจากลานจอดรถขึ้นมาที่ผาสุดแผ่นดิน ซึ่งจ่ายเพียงคนละ 10 บาท เท่านั้น(รวมทั้งไปและกลับ) และทางอุทยานฯก็มีลานกางเต็นท์ให้ ใครสายแคมป์ปิ้งก็ไม่ควรพลาด
- ภายใน “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” ยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ อีก เช่น ผาสุดแผ่นดินที่สามารถเห็นที่ราบลุ่มภาคกลาง ลานหินงามที่มีรูปหินทรงแปลก ๆกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง นับว่าเป็นอุทยานฯที่คุ้มค่ากับการเที่ยวสุด ๆ
1. ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม กับสายหมอกเย็น ๆ หน้าฝน
ถ้าให้นึกถึงสถานที่เที่ยวสวย ๆ ในช่วงหน้าฝน “ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม” ก็คงเป็นหนึ่งในสถานที่เข้ามาอยู่ในลิสต์ของใครหลายคน ครั้งนี้ผมจะพาไปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ด้วยความโดดเด่นของทุ่งดอกกระเจียวที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดชัยภูมิ และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 830 เมตร ทำให้บนนี้มีอากาศเย็นเกือบทั้งวัน(แอบหนาวนิดๆ ถ้าลมพัดแรง) ซึ่งทางอุทยานฯได้ทำทางเดินสะพานไม้ในเส้นทางท่องเที่ยวไว้เป็นอย่างดี สะดวกสบายกับการเดินชมดอกไม้มาก ๆ เหมาะกับทั้งสายถ่ายธรรมชาติและสายถ่ายแฟนคู่กับทุ่งดอกกระเจียวเป็นอย่างยิ่ง แล้วอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือในหน้าฝนตอนเช้าถึงสาย ๆ เมฆหมอกมักจะยกตัวขึ้นปกคลุมบริเวณเทือกเขา แน่นอนว่าเราจะได้เห็นทุ่งดอกกระเจียวป่าเขาเขียว ๆพร้อมกับสายหมอกปกคลุมเป็นฉากหลังสวยงาม ตามแบบฉบับที่เราเคยเห็นรูปภาพในเพจรีวิวหรือเว็บท่องเที่ยวต่าง ๆเลย
ทุ่งดอกกระเจียวหรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ บนเทือกเขาพังเหยที่ระดับความสูงเฉลี่ย 780-850 เมตร จากระดับน้ำทะเล และอยู่สูงกว่าเมืองชัยภูมิประมาณ 500-600 เมตร บนนี้จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ดังนั้นใครที่จะมากางเต็นท์หรือพักที่อุทยานฯ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศร้อน เพราะที่นี่อากาศจะเย็นกว่าตัวเมืองชัยภูมิประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนจะอยู่ตารางด้านล่าง(อ้างอิงจากทุ่งดอกกระดอกเจียว ที่ระดับความสูง 830 เมตร) สำหรับจองที่พักหรือลานกางเต็นท์ของอุทยานฯ สามาถเข้าไปได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า
2. ไปชัยภูมิ ไปช่วงไหนทุ่งดอกกระเจียวบานเยอะสุด
“ดอกกระเจียว” ถือว่าเป็นพืชท้องถิ่นของไทยมาช้านาน มักพบได้ทั่วไปในพื้นที่ป่าไม้ผลัดใบ เช่น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ทั้งทางแถบภาคเหนือและอีสาน แต่ส่วนมากจะพบทางภาคอีสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งดอกกระเจียวจะบานเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น แน่นอนว่ามันจะบานในหน้าฝนหรือช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม แต่ว่าดอกไม้จะบานเยอะสุดแบบสมบูรณ์แบบจริง ๆก็เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม แล้วในแต่ละปีก็บานเร็วหรือช้าไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับว่าฤดูฝนมาเร็วแค่ไหน หากฤดูฝนมาช้าทุ่งดอกกระเจียวก็บานช้าออกไป ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาด แนะนำให้ไปช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป รับรองได้เห็นแน่ ๆ แล้วเคล็ดลับอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนไม่รู้ คือดอกกระเจียวมักจะบานสวยงามที่สุดในช่วงเช้าถึงสาย ๆ หรือในช่วงที่เมฆหมอกยังปกคลุมอยู่ ดังนั้นไม่ควรไปช่วงบ่าย เพราะโอกาสที่เมฆหมอกจะโดนแดดส่องสลายมีสูงมาก และให้พึงเสมอว่าถ้าหมอกสลายเมื่อไหร่ดอกกระเจียวจะเริ่มหุบทันที
โดยสรุปแล้วคำถามที่ว่า “ทุ่งดอกกระเจียว” ไปช่วงไหนบานสวยที่สุด? คำตอบก็คือช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี แล้วควรไปช่วงเช้าถึงสาย ๆ เนื่องจากดอกกระเจียวจะบานสวยงามที่สุด แถมมีโอกาสได้สัมผัสหมอกเย็น ๆกับทุ่งดอกกระเจียวด้วย เรียกได้ว่า ฟินกันเลยทีเดียว
3. เส้นทางเดินธรรมชาติชมทุ่งดอกระเจียวป่าหินงาม
การเดินทางเข้าไปชม “ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม” เราจะต้องไปจอดรถที่ลานจอดของอุทยานฯ แล้วนั่งรถรางที่อุทยานมีไว้ให้บริการไปกลับคนละ 10 บาท โดยรถจะจอดให้ลงจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ และเราสามารถขึ้น-ลง รถคันใด ๆ ก็ได้ แต่แนะนำว่าให้นั่งรถไปจุดชมวิวสุดแผ่นดิน เพราะเราจะชมวิวที่จุดนี้กันก่อนแล้วค่อยเดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และที่สำคัญคือมันไม่เหนื่อยครับ หากเราเริ่มต้นจุดนี้เส้นทางจะค่อย ๆ เดินลงเขาไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเราไปเดินขึ้นมาจากด้านล่างมันจะเหนื่อยเปล่า ๆ หรือใครอยากจะออกกำลังกายก็ไม่ว่ากัน ฮ่า ๆ
4. จุดชมวิวผาสุดแผ่นดิน จุดเริ่มต้นเส้นทางดูดอกกระเจียว
จุดชมวิวผาสุดแผ่นดิน จะเป็นจุดแรกที่รถจอดให้เราเดิน ซึ่งจุดนี้ก่อนเราจะเข้าไปเดินเส้นทางชมดอกกระเจียว แนะนำให้มาชมวิวจุดนี้ก่อน ตรงนี้ถ้าอากาศแจ่มใสหรือมาช่วงบ่าย ๆก็จะเห็นชายแดนรอยต่อระหว่างจังหวัดชัยภูมิ ลพบุรี และ เพชรบูรณ์ แต่ว่าช่วงที่ผมไปเมฆหมอกกำลังยกตัวอย่างสนุกสนานจึงแทบไม่เห็นอะไรเลย ฮ่า ๆ อย่างว่าแหละครับถ้าอยากได้ไอหมอกเป็นฉากหลังก็ต้องแลกมาด้วยไม่เห็นวิวอะไรที่ผาสุดแผ่นดิน แต่ถ้ามาเห็นวิวตรงนี้เราก็จะไม่ได้ไอหมอก ดังนั้นต้องเลือกเอาครับว่าจะเอาแบบไหน ได้อย่างเสียอย่างตามหลักเศรษฐศาสตร์เลย 555 ส่วนทำไมชื่อว่า “ผาสุดแผ่นดิน” เพราะตรงนี้คือรอยต่อระหว่างที่ราบสูงภาคอีสานกับที่ราบลุ่มภาคกลางนั่นเอง
5. ดูดอกกระเจียวแล้ว อย่าลืมแวะไปดูลานหินงาม
เมื่อเราเดินชมทุ่งดอกกระเจียวกันอย่างจุใจแล้ว ก็ให้มารอรถรางตรงจุดรอรถ ซึ่งรถรางจะพาเราไปยังจุดท่องเที่ยวลานหินงาม จุดท่องเที่ยวนี้เราจะได้เห็นประติมากรรมทางธรณีวิทยาที่เกิดจากเนื้อหินทรายถูกลมฝนพัดในเวลานับล้านปีที่ผ่านมา(เห็นว่ากระบวนการทั้งหมดใช้เวลาถึง 180-230 ล้านปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว) ทำให้มีหินรูปทรงต่าง ๆ ตั้งอยู่กระจัดกระจายทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง รูปทรงที่เห็นได้ชัด เช่น หินรูปถ้วยรางวัล มอหำตั้ง หินปราสาท หินถ้ำมอง ขอเสริมความรู้ทางธรณีวิทยานิด ๆ จริง ๆแล้วตรงบริเวณนี้ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อการยกตัวของแผ่นเปลือกโลกที่เกิดแผ่นฉานไทยชนกับอินโดจีนเมื่อ 220 ล้านปีที่แล้ว ทำให้ฝั่งตะวันออกเป็นที่ราบสูงอีสาน ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นที่ราบลุ่มภาคกลาง