ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ
Highlight
- ทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีความสวยงามที่สุดของไทย ซึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุด(มุมมหาชน) เราจะต้องเดินบันไดขึ้นไปประมาณ 150 เมตร ตรงนี้จะมีเก้าอี้ยกสูงให้ยืนถ่ายรูปได้ ส่วนดอกบัวตองจะบานเยอะสุดในช่วงวันที่ 17-23 พฤศจิกายน ของทุกปี
- ช่วงเวลาสวยที่สุดของทุ่งดอกบัวตองจะอยู่ในช่วงตอนเช้าหรือเย็น ในตอนเย็นเราจะเห็นพระอาทิตย์ลับขอบภูเขาโดยตรง เหมาะกับการเก็บแสงเย็นมาก ๆ ส่วนในช่วงเช้าเราจะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตรง ๆ แต่เราจะได้แสงทองสาดลงมาพร้อมกับทะเลหมอกหุบเขาเบื้องล่าง โดยรวม ๆแล้วผมให้ตอนเย็นมีความสวยงามที่สุด
- ที่พักบนดอยแม่อูคอจะมีให้เลือก 2 แบบ แบบแรก คือกางเต็นท์ตรงบริเวณทุ่งดอกบัวตองได้เลย แบบที่สอง ไปพักที่สวนดอยแม่อูคอหรือที่พักแถวตลาดดอยแม่อูคอ มีทั้งแบบกระโจมและบ้านแบบหลัง ภายในจะมีแค่ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆทั้งสิ้น และจะมีไฟให้ใช้เฉพาะ 18:00 – 22:00 เท่านั้น ส่วนใครอยากพักแบบสบาย ๆแนะนำให้ลงไปนอนในตัวอำเภอขุนยวมเลยครับ แต่ข้อเสียคือจะไกลจากทุ่งบัวตองถึง 30 กิโลเมตร อาจจะทำให้เก็บแสงเช้าได้ไม่ทัน
1. ดอยแม่อูคอกับทุ่งบัวตองที่อลังการสุดในไทย
เมื่อพูดถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงปลายฝนต้นหนาว หลายคนก็คงนึกถึงทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามที่บานสะพรั่งปกคลุมอยู่บนยอดดอยแม่อูคอ แม้ว่าปัจจุบันในเมืองไทยจะมีสถานที่ชมทุ่งดอกบัวตองอื่น ๆผุดขึ้นมาเยอะมากก็ตาม แต่ด้วยความโดดเด่นของดอยแม่อูคอที่มีทุ่งดอกบัวตองกว้างมากกว่า 500 ไร่ ปกคลุมอยู่บนยอดภูเขาสูง นอกจากมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวันแล้วยังเห็นวิวเทือกเขาสูงเรียงรายกันอย่างสวยงาม จึงไม่แปลกใจเมื่อเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้วจะมีนักท่องเที่ยวหลายคนดั้งด้นขับรถผ่านมานับพัน ๆโค้ง เพื่อมาดูทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ทุ่งดอกบัวตองที่นี่ยังสามารถเที่ยวชมได้ทุกเวลาตั้งแต่ เช้า กลางวัน เย็น หรือแม้กระทั่งเก็บแสงดาวตอนกลางคืน และไม่ว่าจะมาช่วงเวลาไหนก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป แต่ถ้าจะเอาให้สุดก็ต้องมาช่วงเช้าหรือเย็น แน่นอนว่าผมยกให้ทุ่งบัวตองบนดอยแม่อู่คอเป็นหนึ่งในสถานที่ของแม่ฮ่องสอนที่อย่างน้อยสักครั้งในชีวิตต้องมาให้ได้ ยิ่งใครสายเที่ยวธรรมชาติสวย ๆก็ไม่ควรพลาดมาก ๆ
ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จะมีจุดชมวิว 2 จุดใหญ่ ๆ จุดแรกคือบริเวณด้านล่างที่เราจอดรถ มุมนี้เราจะเห็นทุ่งบัวตองอยู่บนเนินเขาฉากหลังเป็นท้องฟ้า เหมาะกับการมาช่วงกลางวันท้องฟ้าใส ๆ และจุดที่สองเราต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 150 เมตร ซึ่งด้านบนนี้เราจะเห็นทุ่งบัวตองมุมสูงเมื่อมองลงไปจะเห็นแนวเทือกเขาสูงเรียงรายในเขตอำเภอขุนยวมได้อย่างอลังการมาก และแน่นอนว่ามุมมหาชนก็อยู่บนนี้ แต่ว่าจะอยู่ถึงก่อนบนยอดนิดหน่อยนะครับ ให้สังเกตดี ๆก่อนถึงยอดจะมีทางเดินออกจากบันได ตรงมุมมหาชนจะมีเก้าอี้ให้ยืนถ่ายรูปได้(ใครสายถ่ายรูปมันจะวางขาตั้งกล้องยากหน่อยนะ) ดังนั้นใครที่ดั้งด้นขึ้นมาถึงดอยแม่อูคอแล้วก็อย่าขี้เกียจเดินขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนเด็ดขาด เพราะไฮไลท์จริง ๆมันอยู่บนนี้นี่แหละครับ รับรองว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยแน่นอน
เนื่องจากว่าทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอตั้งอยู่บนระดับความสูงเฉลี่ย 1,400 เมตร จากระดับน้ำทะเล และอยู่สูงกว่าเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 1,130 เมตร ทำให้บนดอยแม่อูคอมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ดังนั้นใครที่จะมากางเต็นท์หรือพักที่สวนดอยแม่อูคอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอากาศร้อน เพราะบนนี้อากาศจะเย็นกว่าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 5-6 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนจะอยู่ตารางด้านล่าง(อ้างอิงจากตลาดผักแม่อูคอ ที่ระดับความสูง 1,400 เมตร)
2. ดอยแม่อูคอ ไปช่วงไหนทุ่งดอกบัวตองบานเยอะสุด
ดอกบัวตองถือเป็นหนึ่งในพืชสายพันธุ์เอเลี่ยนของไทย(ไม่ใช่พื้นท้องถิ่นและเป็นพืชรุกราน) เดิมทีมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศเม็กซิโก แล้วถูกนำมาปลูกในประเทศไทยโดยมิชชันนารีชาวเม็กซิโก ในตอนแรกก็ปลูกเพียงไม่กี่ต้น แต่ด้วยต้นบัวตองชอบขึ้นในที่อากาศเย็น ๆ แสงแดดจัด และทนต่อสภาวะแล้งได้ดี ทำให้ในปัจจุบันต้นบัวตองรุกรามกลายเป็นทุ่งหย่อม ๆอยู่บนตามเชิงดอยต่าง ๆที่มีความสูงเกิน 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล และแน่นอนว่าทุ่งที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่บนดอยแม่อูคอนี่เอง โดยทั่วไปแล้วในเมืองไทยต้นบัวตองจะออกดอกช่วงเดือนพฤศจิกายน – ต้นธันวาคม ระยะเวลาบานทั้งหมดจะอยู่เพียงแค่ 38-40 วันเท่านั้น ทั้งนี้ทุ่งดอกกบัวตองจะเริ่มบานตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วย ปีไหนหนาวเร็วก็จะบานเร็ว ปีไหนหนาวช้าก็บานช้า แต่มันก็ไม่ได้เหลื่อมล้ำจากวันที่ผมบอกไปมากเท่าไหร่ บวกลบประมาณ 3-5 วัน เท่านั้น ดังนั้นใครที่กำลังจะวางแผนแนะนำให้ติดตามในเว็บนี้ได้เลย ผมจะอัพเดทให้ในช่วงปลายตุลาคมของทุก ๆปี ซึ่งผมแบ่งช่วงให้ละเอียดตามด้านล่างนี้
วันที่ 1-8 พฤศจิกายน ทุ่งดอกบัวตองจะเริ่มออกดอก ประมาณ 10-40% ใครมาช่วงนี้จะเห็นเป็นทุ่งต้นไม้เขียว ๆมากกว่าดอกเหลือง ๆ ดอกบัวตองจะขึ้นแบบประปราย
วันที่ 9-16 พฤศจิกายน ทุ่งดอกบัวตองเริ่มออกดอกไปแล้วประมาณ 40-80% ใครมาช่วงนี้จะเริ่มเห็นเป็นทุ่งดอกสีเหลือง ๆแล้ว มีสีเขียวสลับบ้างนิดหน่อย
วันที่ 17-23 พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งเต็มที่ประมาณ 80-100% ใครมาช่วงนี้จะเห็นเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง ๆเต็มไปหมด เหมาะกับการมาเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
วันที่ 25-30 พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ทุ่งดอกบัวตองเริ่มร่วงแล้ว แต่ว่ายังสีเหลืองสวยงามอยู่เต็มทุ่ง ดังนั้นใครมาช่วงนี้ยังพอทันอยู่นะครับ เพียงแต่จะไม่สวยเท่าตอนก่อนหน้านี้ แต่โดยรวมก็สวยกว่าช่วงแรก ๆ และปลายสุดแน่นอน
วันที่ 1-8 ธันวาคม ทุ่งดอกบัวตองจะเริ่มร่วงหล่น พอถึงวันที่ 8 ธ.ค. จะร่วงโรยไปแล้วประมาณ 80% ใครมาช่วงนี้จะเห็นเป็นทุ่งดอกไม้เหลือง ๆแบบเหี่ยวเฉา ถ้ามาเอาบรรยากาศถ่ายกว้างๆพอได้ แต่หากจะมาเก็บภาพดอกไม้ระยะใกล้ๆอาจได้ดอกไม้เฉา ๆไปแทน
โดยสรุปแล้วคำถามที่ว่า “ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ” ไปช่วงไหนสวยที่สุด? แน่นอนว่าคำตอบก็คือ “ช่วงวันที่ 17-23 พฤศจิกายน ของทุกปี” เพราะเป็นช่วงที่ทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งเต็มที่ประมาณ 80-100% ใครมาช่วงนี้จะเห็นเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลือง ๆ และถ้าหากโชคดีเราจะได้เจอทะเลหมอกบนนี้ด้วย
3. จุดเก็บแสงเย็นที่ดีของแม่ฮ่องสอนอยู่ที่ดอยแม่อูคอ
ถ้าถามผมว่าทุ่งดอกบัวตองไปช่วงเวลาไหนสวยงามอลังการสุด ผมก็คงตอบว่า “ช่วงเย็น” สิครับ!! เพราะทุ่งดอกบัวตองเมื่อมองลงไปเราจะเห็นแนวทิวเขาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ แน่นอนว่าเราจะเห็นพระอาทิตย์ลับขอบภูเขาพร้อมกับแสงสีทองที่สาดมายังทุ่งบัวตองให้มีความเหลืองอร่ามสุดอลังการ เท่าที่ผมไปแม่ฮ่องสอนมาเกือบทั้งจังหวัด ทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอนับเป็นหนึ่งในสถานที่เก็บแสงเย็นได้สวยงามที่สุดในระดับสิบกะโหลก สำหรับใครที่จะมาเก็บแสงเย็นแนะนำให้ขึ้นไปเก็บตรงจุดชมวิวมุมมหาชนด้านบน และควรมาก่อนพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 45 นาที จะได้ไม่พลาดช่วงเวลาแสงทองสวย ๆ ครับ
4. เก็บแสงเช้าพร้อมกับทะเลหมอกอันน้อยนิดที่ดอยแม่อูคอ
เมื่อมาดอยแม่อูคอแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือการเก็บแสงเช้า เพราะในช่วงเช้า ๆนอกจากเราจะได้แสงสีทองสวยงามแล้วอาจจะได้ทะเลหมอกหุบเขาด้านล่างด้วย นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่มีความสวยงาม ที่สาย Landscape ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แต่ว่าแสงเช้าที่นี่จะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นโดยตรง และกว่าแสงเช้าจะสาดมายังทุ่งบัวตองก็ใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที หลังพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า(ช่วงกลางเดือน พ.ย. ราว ๆ 07:15) ดังนั้นใครจะมาเก็บแสงเช้าที่นี่ให้มาช่วงตอนพระอาทิตย์ขึ้นพอดี(ไม่ต้องรีบมาก็ได้) ส่วนใครอยากจะไปเก็บพระอาทิตย์ขึ้นตรง ๆ และแบบมีทะเลหมอกแน่นอน แนะนำให้ติดต่อตรงที่พักสวนดอยแม่อูคอเพื่อขึ้นไปบนภูชี้เพ้อได้เลยครับ พอลงจากภูเพ้อค่อยมาเก็บแสงเช้าที่ทุ่งบัวตองก็ได้ยังทันอยู่
5. ดอยแม่อูคอ ไปพักที่ไหนดี กางเต็นท์หรือนอนบ้านสวนดอยแม่อูคอ
หลายคนมาดอยแม่อูคออาจจะมีปัญหาว่าพักที่ไหนดีถึงจะใกล้กับทุ่งบัวตอง ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วคนส่วนมากจะลงไปพักที่ตัวอำเภอขุนยวม ซึ่งห่างจากทุ่งบัวตอง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถขึ้นมาราว ๆ 1 ช.ม. แน่นอนว่าใครที่เป็นสายเก็บแสงเช้าเฝ้าแสงเย็นจะลำบากหน่อย แต่ถ้าอยากพักใกล้ ๆมันก็พอมีอยู่ 2 ทางเลือก ดังนี้
ทางเลือกแรก คือนอนกางเต็นท์ตรงทุ่งบัวตองเลย ซึ่งลานกางเต็นท์จะมี 2 จุด จุดแรก คือจะอยู่ตรงทางขึ้นไปจุดชมวิวด้านบน ข้อดีของจุดนี้คือใกล้กับจุดชมวิว แต่ข้อเสียคือคนพลุกพล่านมาก ส่วนจุดที่สอง จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายก่อนถึงทางโค้งที่เป็นลานจอดรถ เข้าไปประมาณ 350 เมตร จะมีลานหญ้ากว้าง ๆ ข้อดีของจุดที่สองคือคนไม่เยอะค่อนข้างเงียบสงบ แต่ไกลจากจุดชมวิวด้านบนมาก สำหรับห้องน้ำไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีให้บริการทั้ง 2 จุดกางเต็นท์นะครับ
ทางเลือกที่สอง คือพักที่บ้านสวนดอยแม่อูคอ ซึ่งถ้ามาจากทางขุนยวมจะอยู่ถึงก่อนทุ่งบัวตองประมาณ 2 กิโลเมตร จากที่พักตรงนี้เราจะเห็นทุ่งบัวตองได้ระยะไกล ๆ ได้เลย บ้านสวนดอยแม่อูคอจะมีที่พัก 2 แบบ แบบแรกเป็นกระโจมนอนได้ 2 คน ราคาคืนละ 500 บาท (ห้องน้ำรวม มีน้ำอุ่นห้องเดียว) และแบบทีสองเป็นบ้านพักหลัง ๆ นอนได้ 4 คน ราคาคืนละ 1,500 บาท (ห้องน้ำเดี่ยวมีน้ำอุ่น) และไม่ว่าจะพักแบบไหนที่นี่มีให้เพียงแค่ที่นอน หมอน ผ้าห่ม เท่านั้น ที่เหลือต้องเตรียมไปเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ผ้าเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งแบตสำรอง ขอบอกก่อนว่าที่นี่จะปั่นไฟให้แสงสว่างเฉพาะเวลา 18:00 – 22:00 และไม่มีปลักไฟใด ๆให้ชาร์ตทั้งสิ้น ถ้าจะชาร์ตแบตต้องเอาไปชาร์ตตรงร้านอาหารด้านหน้าตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะกับคนหาที่พักแบบเอาไว้แค่นอนอย่างเดียว ไม่ได้หวังสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ใครสนใจติดต่อไปที่เบอร์โทร 085-867-4464 หรือ “บ้านสวนดอยดอยแม่อูคอ” ได้เลยครับ(เปิดจองล่วงหน้า ก.ย. 63) ส่วนใครอยากนอนสบาย ๆ แนะนำให้ลงไปนอนตัวอำเภอขุนยวมเลยครับ
จริง ๆแล้วบริเวณนี้ก็ยังมีที่พักอื่น ๆอีกนะครับ แต่ก็เป็นลักษณะแบบกระโจมเหมือนกัน ไม่มีแบบบ้านหลัง ถ้าสวนดอยแม่อูคอเต็มก็ให้พักแถวๆนั้นได้เลย และสุดท้ายก่อนจะกลับจากดอยแม่อูคอ ตรงบริเวณสวนดอยแม่อูคอจะมีตลาดขายผักผลไม้และของพื้นเมืองเยอะมาก ขอบอกเลยว่าผักที่นี่สดมาก ๆ และถูกมาก ๆ ด้วย ใครที่มาเที่ยวแล้วกำลังกลับก็อย่าลืมซื้อผักสดๆติดไม้ติดมือกลับบ้านนะครับ