เที่ยวแม่ฮ่องสอน 4 วัน 3 คืน ช่วงเดือนมกราคม
1.แม่ฮ่องสอน ไปช่วงมกราคม ไปแล้วสวยมั้ย อากาศเป็นยังไง
เที่ยวแม่ฮ่องสอนช่วงเดือนมกราคม เป็นช่วงที่ธรรมชาติสวยงาม ป่าเขายังเขียวอยู่ อุณหภูมิอากาศตอนเช้าพื้นราบประมาณ 13-16 องศา(ช่วงลมหนาวแรงๆก็เลขตัวเดียวได้เลย) ส่วนบนภูเขาสูง ๆเรียกได้ว่าหนาวเลยครับ อย่างบ้านรักไทย/ปางอุ๋ง บ้านจ่าโบ่ ตอนเช้า ๆเฉลี่ย 9-13 องศาฯ(โอกาสเจอไอหมอกบนน้ำสูงมาก!!!) กลางวันบนดอยไม่ร้อนมากประมาณ 22-24 องศาฯ ส่วนพื้นราบ 27-29 องศาฯ แล้วที่สำคัญในเดือนมกราคม โอกาสเกิดทะเลหมอกปกคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนสูงมาก เฉลี่ย 20 วัน/เดือน เลยทีเดียว ดังนั้นใครไปช่วงเดือน ม.ค. แนะนำให้พักตัวเมือง 1 คืน พอตอนเช้าให้ขึ้นไปวัดพระธาตุกองมูเพื่อชมทะเลหมอก แถมได้เดินถนนคนเดินด้วย
2.แม่ฮ่องสอน ไปช่วงเดือนมกราคม วางแผนเที่ยวไหนอย่างไร ไม่ให้พลาดสถานที่สวยๆ
วันที่ 1 : เริ่มต้นขับรถมาจาก กทม. หรือเชียงใหม่ ใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย-แม่ฮ่องสอน) ซึ่งจะขึ้นลงภูเขาสูง 2 ลูก ลูกแรกเราจะผ่านอุทยานฯห้วยน้ำดัง หากใครมีเวลาก็แวะเที่ยวได้ และถ้าใครมา 4 คืน ก็สามารถพักค้างคืนที่นี่ได้ ทะเลหมอกบนนี้สวยมาก หลังจากที่เราขับรถผ่านห้วยน้ำดังแล้วจะเป็นทางลงเขาตลอดระยะ 20 กิโลเมตร ข้อควรระวัง!! ใช้เกียร์ต่ำและเบรกให้น้อยที่สุด อย่ากดเบรกยาวจนเกินไป ไม่งั้นเบรกอาจแตกได้ ส่วนเขาลูกที่สอง คือยอดดอยกิ่วลมนั่นเอง แนะนำให้จอดรถพักยืดเส้นยืดสายถ่ายรูป บนนี้จะเห็นเทือกเขาสลับซ้อนทั้งผั่งอำเภอปายและปางมะผ้า หลักจากนั้นให้มุ่งไปบ้านรักไทยหรือปางอุ๋ง ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง หากชอบแนวท่ามกลางป่าสนมีทะเลสาป ก็ไปปางอุ๋ง แต่ถ้าชอบแนวหมู่บ้านริมทะเลสาปก็ให้ไปบ้านรักไทย ทั้ง 2 ที่ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร(ผมแนะนำบ้านรักไทย เพราะปางอุ๋งช่วงนนี้ไม่มีช้างให้ล่า) แต่สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อขึ้นมาบนนี้แล้วคือการกินอาหารไทยจีน-ยูนนาน ที่บ้านลีไวน์รักไทย ขอแนะนำเลยห้ามพลาดขาหมูอร่อยมาก หลังจากที่กินจนอิ่มจุใจแล้ว ใครที่ไปปางอุ๋งก็เตรียมรอเก็บแสงเย็น ส่วนใครอยู่บ้านรักไทยก็นั่งชิวๆ จิบชารับอากาศเย็น ๆไป
วันที่ 2 : ตื่นเช้ามารับอากาศหนาว ๆชมไอหมอกบนน้ำในทะเลสาป ขอบอกเลยว่าไอหมอกบนน้ำช่วงเดือน ม.ค. จัดเต็มแบบจุก ๆไปเลย เนื่องจากเป็นช่วงที่แม่ฮ่องสอนอากาศหนาวมากที่สุด ไอหมอกบนน้ำเยอะสุดช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น และหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นได้ 30 นาที ไอหมอกจะลดลงเรื่อย ๆไม่เกิน 8 โมงเช้า ก็หมดแล้ว ดังนั้นต้องตื่นเช้า ๆหน่อยนะครับ ใครสายถ่ายรูปก็ควรหามุมรอเอาไว้เลย เมื่อชมไอหมอกกินข้าวต้มร้อนพร้อมรับอากาศเย็น ๆกันจุใจแล้ว ก็ให้เดินทางไปเมืองแม่ฮ่องสอน พอถึงแม่ฮ่องสอนแล้วแนะนำให้ไปเที่ยววัดจองคำ-กลาง ซึ่งเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมไทใหญ่ที่โดดเด่นที่สุด พอใกล้เย็น ๆ ค่อยขึ้นไปวัดพระธาตุดอยกองมู เราจะเก็บแสงเย็นและพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่ จุดชมแสงเย็นจะอยู่หลังวัดพระธาตุดอยกองมู เดินขึ้นเนินมา 100 เมตร และถ้ายังไม่หิว หากเก็บแสงเย็นเสร็จแล้วให้รออีกนิดเตรียมตัวถ่ายไฟประดับเจดีย์พระธาตุฯที่สวยงามมาก ๆ ขอบอกเลยไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง!!! เมื่อได้รูปตามที่พอใจแล้วค่อยลงไปหาของกินถนนคนเดินตรงหน้าวัดจองคำ-กลาง และใครสายถ่ายรูป ไฟประดับเจดีย์วัดจองคำ-กลาง ก็สวยไม่แพ้กัน มุมสวยสุดอยู่ตรงหนองจองคำ ไปตั้งกล้องรอได้เลย (ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอนจะมีตั้งแต่ 17:00-22:00 ดังนั้นไม่ต้องรีบของกินมีเพียบ)
วันที่ 3 : ตื่นเช้ามาประมาณ 06:30 ให้ขับรถขึ้นไปวัดพระธาตุดอยกองมู บนนี้เราจะเห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมเมืองแม่ฮ่องสอนสวยมาก(โอกาสเจอหมอกช่วงนี้มากถึง 80% เลยทีเดียว) ในตอนสาย ๆประมาณ 08:00 หมอกจะฟุ้งขึ้นมาเป็นฉากหลังพระธาตุก็จะสวยไปอีกแบบ เมื่อได้รูปแล้วให้มุ่งหน้าไปถ้ำน้ำลอด ถ้ำนี้ตั้งอยู่ในอำเภอปางมะผ้า ผมยกให้เป็นที่เที่ยว Unseen ของแม่ฮ่องสอน เนื่องจากถ้ำนี้มีความมหัศจรรย์คือมีลำน้ำไหลผ่านเข้าถ้ำ แล้วภายในถ้ำจะมีทั้งหมด 3 โถงที่ 1 และ 2 สามารถเดินไปได้ ซึ่งภายในจะมีเสาหินปูนสูงถึง 21.5 เมตร และหินงอกหินย้อย ส่วนโถงถ้ำที่ 3 จะเป็นไฮไลท์ของทีนี่ แต่จะต้องนั่งแพไป ซึ่งมีทางวนอุทยานมีให้บริการราคากันเอง (แนะนำให้ไปโถงที่ 3 ก่อน ค่อยย้อนมาโถงที่ 1 และ 2 จะได้ไม่เหนื่อยซะก่อน) หลังจากเที่ยวกันเสร็จแล้วให้ขึ้นมาบ้านจ่าโบ่ คืนนี้เราจะนอนกันที่นี่ อ้อก่อนขึ้นมาบ้านจ่าโบ่หาอะไรกินตรงหน้าทางเข้าถ้ำก่อนนะครับ เพราะบนบ้านจ่าโบ่ตอนเย็น ๆไม่มีอะไรให้กินเท่าไหร่
วันที่ 4 : ตื่นเช้ามารับอากาศหนาวๆ ชมทะเลหมอกอันสวยงาม ในช่วงเดือน ม.ค. โอกาสเจอหมอกที่บ้านจ่าโบ่จะอยู่ประมาณ 50% เนื่องจากความชื้นเริ่มลดลงแล้ว และต้องทำใจอีกอย่างหนึ่งคือหมอกอาจจะไม่เยอะเท่าช่วงปลายฝนต้นหนาว และสิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาบ้านจ่าโบ่ คือถ่ายกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาพร้อมวิวทะเลหมอกเป็นฉากหลัง เมื่อชมทะเลหมอกกันจุใจแล้วก็เดินทางไปปาย แล้วแวะเที่ยววัดพระธาตุแม่เย็น สะพาประวัติศาสตร์ท่าปาย หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ จบแล้วสำหรับทริปแม่ฮ่องสอน 3 วัน 4 คืน ช่วงเดือนมกราคม หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นไกด์ไลน์ให้กับคนเดินทางหลายๆคนนะครับ